CloudEndure Disaster Recovery
ภัยพิบัติด้านไอทีต่างๆ อย่างเช่น ศูนย์ข้อมูลล่ม เซิร์ฟเวอร์เสียหาย หรือการโจมตีทางไซเบอร์ ไม่เพียงทำให้ธุรกิจของคุณหยุดชะงัก แต่ยังอาจส่งผลให้ข้อมูลสูญหาย ส่งผลกระทบต่อรายได้ และทำลายชื่อเสียงของคุณด้วย CloudEndure Disaster Recovery สามารถลดเวลาหยุดทำงานและการสูญเสียข้อมูลให้เกิดน้อยที่สุดด้วยการมอบการกู้คืนที่รวดเร็วและเชื่อถือซึ่งกู้คืนจากเซิร์ฟเวอร์แบบกายภาพ แบบเสมือน และแบบอยู่บนระบบคลาวด์ไปยัง AWS
คุณสามารถใช้ CloudEndure Disaster Recovery เพื่อปกป้องฐานข้อมูลที่สำคัญสุดได้ ซึ่งรวมถึง Oracle, MySQL และ SQL Server ตลอดจนปกป้องแอปพลิเคชันองค์กร อาทิ SAP
CloudEndure Disaster Recovery จะจำลองเครื่องของคุณ (รวมถึงระบบปฏิบัติการ การกำหนดค่าสถานะระบบ ฐานข้อมูล แอปพลิเคชัน และไฟล์ต่างๆ) อย่างต่อเนื่องไปยังบริเวณที่จัดเตรียมไว้ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่ำภายในบัญชี AWS เป้าหมายและภูมิภาคที่คุณเลือก ในกรณีที่มีภัยพิบัติเกิดขึ้น คุณสามารถสั่ง CloudEndure Disaster Recovery ให้เปิดเครื่องหลายพันรายการของคุณโดยอัตโนมัติ โดยทุกเครื่องอยู่ในสถานะพร้อมใช้งานเต็มระบบได้ภายในไม่กี่นาที
CloudEndure Disaster Recovery สามารถจำลองเครื่องของคุณไปยังบริเวณที่จัดเตรียมไว้ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่ำในขณะที่ยังสามารถเปิดเครื่องให้อยู่ในสถานะพร้อมใช้งานเต็มระบบได้ภายในไม่กี่นาที บริการนี้จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานการกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติได้เป็นอย่างมาก
ประโยชน์
ลดเวลาการหยุดทำงานและป้องกันการสูญเสียข้อมูล
CloudEndure Disaster Recovery มอบการจำลองที่ต่อเนื่องแบบอะซิงโครนัส ซึ่งต่างจากโซลูชันที่ใช้สแนปช็อตซึ่งจะอัปเดตตำแหน่งเป้าหมายในช่วงเวลาที่แตกต่างกันและไม่ถี่ ด้วยเหตุนี้จึงสามารถใช้ Recovery Point Objectives (RPOs) ได้ในระดับวินาที การแปลงและการควบคุมแมชชีนอัตโนมัติช่วยทำให้ Recovery Time Objective (RTO) เป็นระดับนาทีได้ คุณสามารถบรรลุวัตถุประสงค์การกู้คืนที่เข้มงวดสูงสุดได้แม้กับปริมาณงานที่มีการบันทึกมากสูงสุดของคุณ
ลดความซับซ้อนในการปรับใช้และเพิ่มความน่าเชื่อถือ
เทคโนโลยีการเปลี่ยนระบบเมื่อเกิดข้อผิดพลาดและการกลับไปใช้ระบบเดิมของ CloudEndure Disaster Recovery สามารถลดกระบวนการที่ต้องทำด้วยตนเองซึ่งใช้เวลานานและสุ่มเสี่ยงระหว่างการกู้คืนได้ ซึ่งเป็นการลดโอกาสในการเกิดความผิดพลาดของมนุษย์และปรับปรุงความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ CloudEndure ยังมอบการทำงานอัตโนมัติที่ช่วยให้ตั้งค่า ดูแล ติดตามตรวจสอบ และทดสอบกระบวนการกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัตของคุณได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย นอกจากจะลดความซับซ้อนในการปรับใช้แล้ว ยังหมายความว่าคุณสามารถทำการฝึกซ้อมที่ไม่รบกวนลูกค้า ตรวจสอบความถูกต้องของกระบวนการและวัตถุประสงค์การกู้คืน รวมถึงทำการซ่อมที่จำเป็นเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือได้อย่างง่ายดายและบ่อยครั้ง
ปกป้องแอปพลิเคชันและฐานข้อมูลองค์กรด้วยเครื่องมือเพียงชิ้นเดียว
CloudEndure Disaster Recovery ช่วยให้คุณใช้ความต่อเนื่องทางธุรกิจกับฐานข้อมูลที่สำคัญสุดได้สำเร็จ ซึ่งรวมถึง Oracle, MySQL และ SQL Server ตลอดจนปกป้องแอปพลิเคชันองค์กร อาทิ SAP ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องมือการจำลองแบบเจาะจงเฉพาะแอปพลิเคชันหลากหลายเครื่องมือ เพราะ CloudEndure Disaster Recovery สามารถจำลองแอปพลิเคชันและฐานข้อมูลทั้งหมดที่ทำงานในระบบปฏิบัติการที่รองรับ
ลดต้นทุนรวมของกรรมสิทธิ์ทั้งหมด
โซลูชันการกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติแบบเดิมๆ ต้องใช้ทรัพยากรไอทีชุดสำรองที่มีราคาแพง ซึ่งประกอบด้วยฮาร์ดแวร์ ระบบประมวลผล พื้นที่เก็บข้อมูล เครือข่าย และใบอนุญาตซอฟต์แวร์ CloudEndure Disaster Recovery จำลองปริมาณงานของคุณไปยังบริเวณที่จัดเตรียมไว้ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่ำในภูมิภาค AWS ที่คุณต้องการ ซึ่งลดค่าใช้จ่ายการประมวลผลได้ถึง 95% และตัดความจำเป็นในการจ่ายค่าระบบปฏิบัติการสำรองและใบอนุญาตแอปพลิเคชันของบริษัทอื่นได้ คุณต้องจ่ายค่าปริมาณงานที่ได้รับการจัดเตรียมอย่างสมบูรณ์เฉพาะเมื่อเกิดภัยพิบัติจริงหรือเมื่อฝึกซ้อมเท่านั้น
เร่งความเร็วในการย้ายข้อมูลไปยังระบบคลาวด์
การปรับใช้การกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติใน AWS อาจเป็นก้าวแรกที่เปี่ยมประสิทธิภาพในเส้นทางระบบคลาวด์ของคุณ เมื่อคุณตั้งค่า CloudEndure Disaster Recovery เครื่องต้นทางของคุณจะถูกจำลองไปยัง AWS ได้รับการอัปเดตการเปลี่ยนแปลงแอปพลิเคชันทั้งหมดให้เป็นปัจจุบันเสมอ และพร้อมทำงานบนภูมิภาค AWS เป้าหมายของคุณ เมื่อคุณเลือกที่จะโยกย้ายและเรียกใช้ปริมาณงานของคุณบน AWS แบบเต็มเวลา คุณสามารถลดทอนการดำเนินการได้อย่างง่ายดายโดยใช้ CloudEndure Migration ไม่ว่าคุณจะวางแผนใช้งานการกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติใน AWS หรือไม่ก็ตาม คุณสามารถใช้ CloudEndure Migration เพื่อโยกย้ายไปยัง AWS ได้ หากคุณเลือกที่จะโยกย้ายไปยัง AWS คุณสามารถใช้ CloudEndure Disaster Recovery เพื่อปรับใช้การกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติแบบข้ามภูมิภาคได้อย่างง่ายดาย
กรณีการใช้งาน
การกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติจากในองค์กรไปยังระบบคลาวด์
องค์กรที่จัดเก็บปริมาณงานแบบในองค์กรสามารถลด TCO การกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติได้อย่างมหาศาลด้วยการย้ายศูนย์ข้อมูลรองไปยัง AWS การกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติบนระบบคลาวด์สามารถมอบความน่าเชื่อถือ ความพร้อมใช้งาน และความปลอดภัยที่ดีกว่าศูนย์ข้อมูลรองแบบในองค์กร โดยไม่จำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์ ระบบประมวลผล เครือข่าย และซอฟต์แวร์สำรอง CloudEndure Disaster Recovery ช่วยให้ลูกค้าสามารถย้ายไซต์รองของตนไปยัง AWS ได้ โดยไม่เกิดเวลาหยุดทำงานหรือผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน
การกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติแบบข้ามภูมิภาค
ไม่ว่าคุณจะสร้างแอปพลิเคชันบน AWS หรือโยกย้ายไปยัง AWS ก็ตาม คุณสามารถปกป้องปริมาณงานของคุณได้ด้วยการกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติแบบข้ามภูมิภาค ซึ่งเป็นวิธีสร้างความต่อเนื่องทางธุรกิจที่ประหยัดคุ้มค่า CloudEndure Disaster Recovery ช่วยให้สามารถทำระบบสำรองตามเขตภูมิศาสตร์ระหว่างภูมิภาคต่างๆ ของ AWS หรือ Availability Zone ได้ โดยที่ยังจำลองข้อมูลอย่างต่อเนื่องด้วย RPOs และ RTO ที่เข้มงวดที่สุด
การกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติแบบข้ามระบบคลาวด์
ลูกค้าที่เรียกใช้ปริมาณงานอยู่บนระบบคลาวด์อื่นสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นและปฏิบัติตามกฎข้อบังคับต่างๆ ได้ด้วยการใช้ AWS เป็นไซต์การกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติ CloudEndure Disaster Recovery มอบโซลูชันที่ง่ายต่อการจำลองข้อมูลและกู้คืนปริมาณงานจากผู้ให้บริการระบบคลาวด์อื่น ไปยัง AWS โดยจะแปลงเครื่องต้นทางของคุณโดยอัตโนมัติ เครื่องจึงเริ่มระบบและทำงานแบบเนทีฟใน AWS
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

วิธีลดค่าใช้จ่ายในการกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติด้วย AWS

วิธีการทำงานของ CloudEndure Disaster Recovery

การนำระบบคลาวด์ไปใช้ในกลยุทธ์การกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติของคุณ

ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด: รายการตรวจสอบแผนการกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติด้านไอที
ลูกค้าคนสำคัญ
“การที่ CloudEndure กับ AWS สามารถกู้คืนสิ่งต่างๆ แบบเสมือนได้ภายในไม่กี่นาที ไม่ต้องเสียเวลาเป็นชั่วโมงๆ อีกต่อไป ทำให้ช่วยเราได้มากจริงๆ ถ้าเราขาดความสามารถที่จะกู้คืนได้เร็วเท่านี้ เราคงจมน้ำตายกันไปแล้ว”
– Greg Ward, VP ของฝ่ายระบบและเทคโนโลยีด้านข้อมูลที่ Malibu Boats
CloudEndure Disaster Recovery ช่วยกอบกู้ Malibu Boats เอาไว้ได้เมื่อศูนย์ข้อมูลหลักของบริษัทประสบปัญหาเซิร์ฟเวอร์หยุดทำงาน ซึ่งพวกเขาสามารถเริ่มต้นแอปพลิเคชันแบ็คเอนด์ไปยัง AWS ได้ภายในไม่กี่นาที โดยไม่ต้องปิดโรงงานนานเป็นชั่วโมงหรือหลายวัน ส่งผลให้โรงงานกลับมาดำเนินการได้เป็นปกติ และไม่เกิดความล่าช้าทางการผลิตหรือความสูญเสียทางการเงิน Malibu Boats รู้สึกประทับใจที่แอปพลิเคชันของพวกเขาทำงานบน AWS ได้ดีมากแม้อยู่ในระหว่างการเปลี่ยนระบบ ทางบริษัทจึงตัดสินใจเร่งการโยกย้ายศูนย์ข้อมูลในองค์กรหลักของตนไปยัง AWS โดยใช้ CloudEndure Migration ส่งผลให้ Malibu Boats ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและความยืดหยุ่นด้านไอทีให้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก
“เราคาดการณ์ว่าหากสร้างการกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติบนระบบคลาวด์จะมีราคาถูกกว่าถึง 73% เมื่อเทียบกับการสร้างโซลูชันเดียวกันแบบในองค์กร”
– Matthieu Traverse หัวหน้าฝ่ายสถาปนิกไอที ที่ Transdev
Transdev ใช้ CloudEndure Disaster Recovery ในการปกป้องปริมาณงานที่สำคัญยิ่งต่อธุรกิจและลดค่าใช้จ่ายในการกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติลง 73% Transdev เลือกที่จะไม่ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติที่มีอยู่เดิม แล้วตัดสินใจว่าการย้ายไซต์กู้คืนดังกล่าวไปยัง AWS จะช่วยประหยัดทรัพยากรไอทีและสอดคล้องกับกลยุทธ์การย้ายข้อมูลไปยัง AWS ของพวกเขาเป็นอย่างดี ทีมงานจึงเริ่มทดสอบโซลูชันการกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติต่างๆ กับปริมาณงานที่ซับซ้อนและมีการบันทึกสูงมากอย่างหลากหลายรูปแบบ ทาง Transdev ใกล้ล้มเลิกความคิดที่จะใช้การกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติบนระบบคลาวด์แล้ว จนกระทั่งได้ทดสอบ CloudEndure Disaster Recovery ซึ่งทำงานได้ตามที่ต้องการ ขณะนี้ Transdev จึงใช้ CloudEndure Disaster Recovery เพื่อปกป้องปริมาณงานที่สำคัญยิ่งต่อธุรกิจต่างๆ ซึ่งครอบคลุมถึง Microsoft Active Directory, SQL Servers, ปริมาณงาน SAP แบบคลัสเตอร์ของ MSCS และแอปพลิเคชันแบบเฉพาะกลุ่ม

CloudEndure Disaster Recovery มาพร้อมคุณสมบัติมากมายที่จะช่วยลดเวลาหยุดทำงานและการสูญเสียข้อมูลให้เกิดน้อยที่สุด