CI/CD คืออะไร

การใช้งาน CI/CD นำคุณค่าต่อไปนี้มาสู่องค์กร

เร่งการเผยแพร่ฟีเจอร์

การส่งมอบอย่างต่อเนื่องช่วยให้ทีมของคุณได้เปรียบทางการแข่งขันด้วยการเร่งความพยายามในการเผยแพร่ฟีเจอร์ซอฟต์แวร์ ตามปกติ ทีมซอฟต์แวร์จะใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนในการเผยแพร่การอัปเดตเนื่องจากพวกเขาทำงานเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในไซโล ยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยนแปลงบางอย่างมีความซับซ้อนและต้องใช้เวลามากขึ้นด้วยวิธีการพัฒนาแบบดั้งเดิม

ด้วยเวิร์กโฟลว์ CI/CD นักพัฒนาสามารถแบ่งงานการปรับเปลี่ยนซอฟต์แวร์ออกเป็นส่วนที่เล็กกว่าและจัดการได้มากขึ้น และกระจายไปทั่วทั้งทีม นอกจากนี้ CI/CD ยังทำให้การพัฒนาซอฟต์แวร์มีความโปร่งใสและติดตามได้มากขึ้น ช่วยให้คุณคาดการณ์และมุ่งมั่นกับเป้าหมายการส่งมอบได้อย่างมั่นใจ วงจรชีวิตการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เร่งความเร็วขึ้นยังส่งผลดีทางอ้อมต่อลูกค้าอีกด้วย ซึ่งตอนนี้สามารถเข้าถึงการอัปเดตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ปรับปรุงคุณภาพซอฟต์แวร์

การนำการอัปเดตที่เล็กกว่าและบ่อยกว่ามาใช้จะช่วยลดความเสี่ยงของข้อบกพร่องซอฟต์แวร์ที่แฝงอยู่ จุดอ่อน และปัญหาอื่น ๆ ที่หลุดรอดจากการทดสอบภายในองค์กร เมื่อนักพัฒนาทำการเปลี่ยนแปลงฐานโค้ด ไปป์ไลน์ CI/CD จะทำการทดสอบซอฟต์แวร์โดยอัตโนมัติเพื่อให้นักพัฒนาสามารถระบุและแก้ไขความผิดปกติใด ๆ ได้ทันที แทนที่จะทำการทดสอบซอฟต์แวร์หลังจากทำการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนักพัฒนาสามารถทดสอบโค้ดที่เขียนและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ด้วยวิธีนี้ บริษัทต่าง ๆ สามารถมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพซอฟต์แวร์ให้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ใช้งานพึงพอใจมากขึ้น แม้ว่าปัญหาบางอย่างจะผ่านขั้นตอนการทดสอบ แต่คุณสามารถย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงไปเป็นเวอร์ชันซอฟต์แวร์ที่ใช้ได้ก่อนหน้านี้ สิ่งนี้ทำให้นักพัฒนามีเวลาเพียงพอในการแก้ไขข้อบกพร่องโดยไม่รบกวนความพร้อมใช้งานของบริการ 

ปรับปรุงประสบการณ์นักพัฒนา

นักพัฒนาซอฟต์แวร์มักใช้เวลากับงานที่ซ้ำซากหรือต้องใช้ความพยายามมาก เช่น การดีบัก การทดสอบ และการตรวจสอบความถูกต้อง งานเหล่านี้อาจใช้เวลาอย่างมากที่นักพัฒนาสามารถใช้ไปกับงานที่มีคุณค่าสูงกว่า หากไม่ได้รับการแก้ไข นักพัฒนาอาจประสบความเครียด ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะหมดไฟและประสิทธิภาพการทำงานลดลง

การผสานรวมการส่งมอบอย่างต่อเนื่องเข้ากับกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ช่วยลดเวิร์กโหลดของทีมของคุณ นักพัฒนาใช้เครื่องมือ CI/CD เพื่อทำงานด้วยตนเองโดยอัตโนมัติซึ่งใช้เวลาเป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญกว่านั้นพวกเขาใช้เวลาน้อยลงในการแก้ไขปัญหาซอฟต์แวร์ที่สามารถป้องกันได้อย่างง่ายดาย เป็นผลให้ขวัญกำลังใจของทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ของคุณเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลลัพธ์ทางธุรกิจดีขึ้น

ด้านล่างนี้เป็นวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพเวิร์กโฟลว์ CI/CD ของคุณเพื่อให้ประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และให้การส่งมอบซอฟต์แวร์ทันเวลา

รักษาที่เก็บข้อมูลเดียวไว้

เริ่มต้นด้วยการมีที่เก็บข้อมูลที่ใช้ร่วมกันแห่งเดียว จากนั้นสร้างสาขาของนักพัฒนาแต่ละคนหรือสำเนาของที่เก็บส่วนกลาง  หลีกเลี่ยงการสร้างสาขาย่อยหรือสำเนาท้องถิ่นเพิ่มเติมเพื่อป้องกันความสับสนและการสื่อสารผิดพลาด นักพัฒนาทุกคนทำการเปลี่ยนแปลงและทดสอบการเปลี่ยนแปลงในสาขาของตนเองจากนั้นจึงรวมเข้ากับที่เก็บข้อมูลส่วนกลาง

การย้ายการทดสอบแอปพลิเคชันไปช่วงต้น

ทำให้การทดสอบอย่างต่อเนื่องเป็นส่วนหนึ่งของเวิร์กโฟลว์การรวมโค้ดโดยเลื่อนการทดสอบไปช่วงต้น ตัวอย่างเช่น นักพัฒนาการตรวจสอบคุณภาพโค้ด การวิเคราะห์โค้ดแบบคงที่และการทดสอบอื่น ๆ โดยอัตโนมัติทันทีหลังจากแก้ไขโค้ด เพื่อเร่งกระบวนการเผยแพร่ซอฟต์แวร์ เราขอแนะนำให้ใช้สคริปต์ทดสอบ สคริปต์การทดสอบเป็นแนวทางให้เครื่องมือ CI/CD อัตโนมัติในการทดสอบซอฟต์แวร์ โค้ดใด ๆ ที่ล้มเหลวในการทดสอบก่อนบิลดืจะหยุดกระบวนการที่ตามมาในไปป์ไลน์จนกว่านักพัฒนาจะแก้ไข

ทำการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการอัปเดตเนื่องจากนักพัฒนาอาจต้องใช้เวลามากขึ้นในการแก้ไขปัญหา เช่น ความขัดแย้งของโค้ด แต่ให้ทำการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพื่อแก้ไขปัญหาและพุชการเผยแพร่ให้กับลูกค้าอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ คุณสามารถย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ของผู้ใช้อย่างมีนัยสำคัญ

จัดลำดับความโปร่งใส

ให้นักพัฒนาทุกคนเข้าถึงที่เก็บซอร์สโค้ดที่ใช้ร่วมกันและติดตามการเปลี่ยนแปลงที่ทำโดยทีม ด้วยระบบควบคุมเวอร์ชัน คุณสามารถระบุการเปลี่ยนแปลงโค้ดที่เฉพาะเจาะจง วันที่ทำการเปลี่ยนแปลง และผู้พัฒนาที่รับผิดชอบ นอกจากนี้ ยังอำนวยความสะดวกในการตอบรับและการสื่อสารระหว่างนักพัฒนาเพื่อให้ทุกคนอยู่บนหน้าเดียวกันเมื่อทำงานอัปเดต

ทดสอบในสภาพแวดล้อมที่คล้ายกับการผลิต

การทดสอบโค้ดในสภาพแวดล้อมการผลิตเป็นไปไม่ได้เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการรบกวนการดำเนินงานทางธุรกิจ อย่างไรก็ตาม นักพัฒนาสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการทดสอบที่เลียนแบบเงื่อนไขในการใช้งานจริง การทดสอบแอปพลิเคชันภายใต้เงื่อนไขที่ควบคุมได้แต่สมจริงทำให้คุณสามารถระบุปัญหาของโค้ดที่หลุดรอดการทดสอบในระยะเริ่มต้นและลดความเสี่ยงในการปรับใช้