Python คืออะไร
Python เป็นภาษาการเขียนโปรแกรมที่ใช้อย่างแพร่หลายในเว็บแอปพลิเคชัน การพัฒนาซอฟต์แวร์ วิทยาศาสตร์ข้อมูล และแมชชีนเลิร์นนิง (ML) นักพัฒนาใช้ Python เนื่องจากมีประสิทธิภาพ เรียนรู้ง่าย และสามารถทำงานบนแพลตฟอร์มต่างๆ ได้มากมาย ทั้งนี้ซอฟต์แวร์ Python สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ผสานการทำงานร่วมกับระบบทุกประเภท และเพิ่มความเร็วในการพัฒนา
Python มีข้อดีใดบ้าง
ข้อดีต่างๆ ของ Python ได้แก่
- นักพัฒนาสามารถอ่านและทำความเข้าใจโปรแกรม Python ได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากมีไวยากรณ์พื้นฐานเหมือนภาษาอังกฤษ
- Python ทำให้นักพัฒนาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากพวกเขาสามารถเขียนโปรแกรม Python ได้โดยใช้โค้ดน้อยลงเมื่อเปรียบเทียบกับภาษาอื่นๆ อีกมากมาย
- Python มีไลบรารีมาตรฐานขนาดใหญ่ที่มีโค้ดที่ใช้ซ้ำได้สำหรับเกือบทุกงาน ด้วยเหตุนี้ นักพัฒนาจึงไม่ต้องเขียนโค้ดขึ้นใหม่ทั้งหมด
- โดยนักพัฒนาสามารถใช้ Python ร่วมกับภาษาการเขียนโปรแกรมยอดนิยมอื่นๆ เช่น Java, C และ C++ ได้อย่างง่ายดาย
- ทั้งนี้ชุมชน Python ในปัจจุบันมีนักพัฒนาที่พร้อมให้การสนับสนุนหลายล้านคนทั่วโลก หากประสบปัญหา คุณสามารถรับการสนับสนุนอย่างรวดเร็วได้จากชุมชน
- โดยมีแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายบนอินเทอร์เน็ต หากคุณต้องการเรียนรู้ Python ตัวอย่างเช่น คุณสามารถค้นหาวิดีโอ บทแนะนำสอนการใช้งาน เอกสารประกอบ และคู่มือนักพัฒนาได้อย่างง่ายดาย
- Python สามารถใช้งานได้บนระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ต่างๆ เช่น Windows, macOS, Linux และ Unix
Python มีการใช้งานอย่างไร
ภาษา Python มีกรณีการใช้งานหลายอย่างในการพัฒนาแอปพลิเคชัน ซึ่งรวมถึงตัวอย่างดังต่อไปนี้:
การพัฒนาเว็บฝั่งเซิร์ฟเวอร์
การพัฒนาเว็บฝั่งเซิร์ฟเวอร์ประกอบด้วยฟังก์ชันแบ็คเอนด์ที่ซับซ้อนซึ่งเว็บไซต์ดำเนินการเพื่อแสดงข้อมูลต่อผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ต้องโต้ตอบกับฐานข้อมูล สื่อสารกับเว็บไซต์อื่น และปกป้องข้อมูลเมื่อส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย
Python มีประโยชน์สำหรับการเขียนโค้ดฝั่งเซิร์ฟเวอร์ เนื่องจากมีไลบรารีจำนวนมากที่ประกอบด้วยโค้ดที่เขียนไว้ล่วงหน้าสำหรับฟังก์ชันแบ็คเอนด์ที่ซับซ้อน นักพัฒนายังใช้เฟรมเวิร์ก Python ที่หลากหลายซึ่งมีเครื่องมือที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อสร้างเว็บแอปพลิเคชันได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้นอีกด้วย ตัวอย่างเช่น นักพัฒนาสามารถสร้างโครงสร้างเว็บแอปพลิเคชันได้ภายในไม่กี่วินาที เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเขียนขึ้นใหม่ทั้งหมด จากนั้นนักพัฒนาสามารถทดสอบได้โดยใช้เครื่องมือทดสอบของเฟรมเวิร์ก โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องมือทดสอบภายนอก
ระบบอัตโนมัติด้วยสคริปต์ Python
ภาษาการเขียนสคริปต์คือภาษาการเขียนโปรแกรมที่ทำให้งานที่มนุษย์ทำตามปกติเป็นไปโดยอัตโนมัติ โปรแกรมเมอร์จึงใช้สคริปต์ Python อย่างแพร่หลายเพื่อทำให้งานประจำวันหลายอย่างดังต่อไปนี้เป็นไปโดยอัตโนมัติ:
- การเปลี่ยนชื่อไฟล์จำนวนมากพร้อมกัน
- การแปลงไฟล์เป็นไฟล์ประเภทอื่น
- การลบคำที่ซ้ำกันในไฟล์ข้อความ
- การดำเนินการทางคณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐาน
- การส่งข้อความอีเมล
- การดาวน์โหลดเนื้อหา
- การดำเนินการวิเคราะห์บันทึกพื้นฐาน
- การค้นหาข้อผิดพลาดในหลายไฟล์
วิทยาศาสตร์ข้อมูลและแมชชีนเลิร์นนิง
วิทยาศาสตร์ข้อมูลดึงความรู้อันมีคุณค่าจากข้อมูล และแมชชีนเลิร์นนิง (ML) จะสอนคอมพิวเตอร์ให้เรียนรู้จากข้อมูลโดยอัตโนมัติและทำนายได้อย่างแม่นยำ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลใช้ Python สำหรับงานด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลต่างๆ ดังต่อไปนี้:
- การแก้ไขและลบข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเรียกว่าการทำความสะอาดข้อมูล
- การแยกและเลือกคุณสมบัติต่างๆ ของข้อมูล
- การระบุประเภทข้อมูล ซึ่งเป็นการเพิ่มชื่อที่มีความหมายสำหรับข้อมูล
- การค้นหาสถิติต่างๆ จากข้อมูล
- การแสดงข้อมูลด้วยภาพโดยใช้แผนภูมิและกราฟ เช่น แผนภูมิเส้น กราฟแท่ง ฮิสโทแกรม และแผนภูมิวงกลม
การพัฒนาซอฟต์แวร์
นักพัฒนาซอฟต์แวร์มักใช้ Python สำหรับงานด้านการพัฒนาและการประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์ต่างๆ ดังนี้:
- การติดตามบักในโค้ดของซอฟต์แวร์
- การสร้างซอฟต์แวร์โดยอัตโนมัติ
- การดูแลการจัดการโครงการด้วยซอฟต์แวร์
- การพัฒนาต้นแบบซอฟต์แวร์
- การพัฒนาแอปพลิเคชันบนเดสก์ท็อปโดยใช้ไลบรารีส่วนติดต่อผู้ใช้แบบกราฟิก (Graphical User Interface หรือ GUI)
- การพัฒนาเกมที่ใช้ข้อความแบบง่ายๆ ไปจนถึงวิดีโอเกมที่ซับซ้อนมากขึ้น
ระบบทดสอบซอฟตแวร์อัตโนมัติ
การทดสอบซอฟต์แวร์เป็นกระบวนการตรวจสอบว่าผลลัพธ์จริงจากซอฟต์แวร์ตรงกับผลลัพธ์ที่คาดหวังหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์ไม่มีข้อผิดพลาด
- โดยนักพัฒนาใช้เฟรมเวิร์กการทดสอบหน่วย Python เช่น Unittest, Robot และ PyUnit เพื่อทดสอบการทำงานที่เขียนขึ้น
- ผู้ทดสอบซอฟต์แวร์ใช้ Python เพื่อเขียนกรณีที่ใช้ในการทดสอบสำหรับสถานการณ์การทดสอบต่างๆ ตัวอย่างเช่น ผู้ทดสอบใช้เพื่อทดสอบอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของเว็บแอปพลิเคชัน ส่วนประกอบซอฟต์แวร์หลายตัว และคุณสมบัติใหม่
นักพัฒนาสามารถใช้เครื่องมือหลายอย่างเพื่อเรียกใช้สคริปต์ทดสอบได้โดยอัตโนมัติ โดยเครื่องมือเหล่านี้เรียกว่าเครื่องมือรวบรวม/ปรับใช้อัตโนมัติ (Continuous Integration/Continuous Deployment หรือ CI/CD) ทั้งนี้ผู้ทดสอบและนักพัฒนาซอฟต์แวร์ใช้เครื่องมือ CI/CD เช่น Travis CI และ Jenkins เพื่อทำให้การทดสอบเป็นไปโดยอัตโนมัติ เครื่องมือ CI/CD จะเรียกใช้สคริปต์ทดสอบ Python โดยอัตโนมัติ และรายงานผลการทดสอบทุกครั้งที่นักพัฒนานำการเปลี่ยนแปลงโค้ดใหม่มาใช้
Python มีประวัติความเป็นมาอย่างไร
Guido Van Rossum โปรแกรมเมอร์คอมพิวเตอร์ในเนเธอร์แลนด์เป็นผู้สร้าง Python โดยเขาเริ่มต้นในปี 1989 ที่ Centrum Wiskunde & Informatica (CWI) ซึ่งแต่เดิมเป็นเพียงโครงการงานอดิเรกแก้เหงาในช่วงคริสต์มาส ทั้งนี้ชื่อของภาษาได้รับแรงบันดาลใจจากรายการโทรทัศน์ Monty Python's Flying Circus ของช่อง BBC TV เนื่องจาก Guido Van Rossum เป็นแฟนตัวยงของรายการดังกล่าว
ประวัติของ Python เวอร์ชันต่างๆ
- Guido Van Rossum เผยแพร่โค้ด Python เวอร์ชันแรก (เวอร์ชัน 0.9.0) ในปี 1991 โดยมีคุณสมบัติต่างๆ ที่ดีอยู่แล้ว เช่น ประเภทข้อมูลและฟังก์ชันบางส่วนสำหรับการจัดการข้อผิดพลาด
- Python 1.0 ได้รับการนำออกมาใช้ในปี 1994 พร้อมฟังก์ชันใหม่เพื่อประมวลผลรายการข้อมูลได้อย่างง่ายดาย เช่น Map, Filter และ Reduce
- ในขณะที่ Python 2.0 ได้รับการนำออกมาใช้เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2000 พร้อมคุณสมบัติใหม่ที่เป็นประโยชน์สำหรับโปรแกรมเมอร์ เช่น การรองรับอักขระ Unicode และวิธีที่สั้นกว่าในการวนลูปรายการ
- เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2008 ได้มีการนำ Python 3.0 ออกมาใช้ ซึ่งมีคุณสมบัติต่างๆ เช่น ฟังก์ชันการพิมพ์และการสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับการแบ่งหมายเลขและการจัดการข้อผิดพลาด
Python มีคุณสมบัติใดบ้าง
คุณสมบัติต่อไปนี้ทำให้ภาษาการเขียนโปรแกรม Python มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร:
ภาษาที่แปลผลแล้ว
Python เป็นภาษาที่แปลผลแล้ว ซึ่งหมายความว่าสามารถเรียกใช้โค้ดทีละบรรทัดได้โดยตรง หากมีข้อผิดพลาดในโค้ดโปรแกรม ก็จะหยุดทำงานทันที ดังนั้นโปรแกรมเมอร์จึงสามารถค้นหาข้อผิดพลาดในโค้ดได้อย่างรวดเร็ว
ภาษาที่ใช้งานง่าย
Python ใช้คำที่เหมือนในภาษาอังกฤษ ซึ่งแตกต่างจากภาษาการเขียนโปรแกรมอื่นๆ เนื่องจาก Python ไม่ใช้วงเล็บปีกกา แต่จะใช้การเยื้องแทน
ภาษาที่ระบุประเภทแบบไดนามิก
โปรแกรมเมอร์ไม่ต้องระบุประเภทตัวแปรเมื่อเขียนโค้ดเนื่องจาก Python จะกำหนดไว้ที่รันไทม์ ด้วยเหตุนี้ คุณจึงสามารถเขียนโปรแกรม Python ได้รวดเร็วขึ้น
ภาษาระดับสูง
Python มีความใกล้เคียงกับภาษามนุษย์มากกว่าภาษาการเขียนโปรแกรมอื่นๆ ดังนั้นโปรแกรมเมอร์จึงไม่ต้องกังวลกับฟังก์ชันการทำงานพื้นฐานต่างๆ เช่น สถาปัตยกรรมและการจัดการหน่วยความจำ
ภาษาเชิงอ็อบเจกต์
Python ถือว่าทุกสิ่งเป็นอ็อบเจกต์ แต่ก็ยังรองรับการเขียนโปรแกรมประเภทอื่นๆ ด้วย เช่น การเขียนโปรแกรมเชิงโครงสร้างและเชิงฟังก์ชัน
ไลบรารี Python คืออะไร
ไลบรารีคือชุดของโค้ดที่ใช้บ่อยซึ่งนักพัฒนาสามารถใช้ในโปรแกรม Python เพื่อหลีกเลี่ยงการเขียนโค้ดขึ้นใหม่ทั้งหมด ตามค่าเริ่มต้นแล้ว Python จะมาพร้อมกับไลบรารีมาตรฐาน ซึ่งมีฟังก์ชันที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้มากมาย นอกจากนี้ยังมีไลบรารี Python มากกว่า 137,000 รายการสำหรับการประยุกต์ใช้ต่างๆ รวมถึงการพัฒนาเว็บ วิทยาศาสตร์ข้อมูล และแมชชีนเลิร์นนิง (ML)
ไลบรารี Python ยอดนิยมคืออะไร
Matplotlib
นักพัฒนาซอฟต์แวร์ใช้ Matplotlib เพื่อลงจุดข้อมูลในกราฟิกสองมิติและสามมิติ (2D และ 3D) คุณภาพสูง ซึ่งมักจะใช้ในงานทางวิทยาศาสตร์ Matplotlib ช่วยให้คุณสามารถแสดงข้อมูลเป็นภาพโดยแสดงผลในแผนภูมิต่างๆ เช่น แผนภูมิแท่งและแผนภูมิเส้น คุณยังสามารถลงจุดแผนภูมิได้หลายรายการพร้อมกัน และกราฟิกสามารถใช้งานได้ในทุกแพลตฟอร์มอีกด้วย
Pandas
Pandas มีโครงสร้างข้อมูลที่ปรับให้เหมาะสมและยืดหยุ่น ซึ่งคุณสามารถใช้เพื่อจัดการชุดข้อมูลเวลาและข้อมูลที่มีโครงสร้าง เช่น ตารางและอาร์เรย์ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้ Pandas เพื่ออ่าน เขียน ผสานรวม กรอง และจัดกลุ่มข้อมูลได้ หลายคนจึงใช้สำหรับงานด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และ ML
NumPy
NumPy เป็นไลบรารียอดนิยมที่นักพัฒนาใช้เพื่อสร้างและจัดการอาร์เรย์ จัดการรูปร่างเชิงตรรกะ และดำเนินการคำนวณพีชคณิตเชิงเส้นได้อย่างง่ายดาย โดย NumPy รองรับการทำงานร่วมกับภาษาต่างๆ มากมาย เช่น C และ C++
คำขอ
ไลบรารีคำขอมีฟังก์ชันที่เป็นประโยชน์ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาเว็บ โดยคุณสามารถใช้ไลบรารีนี้เพื่อส่งคำขอ HTTP, เพิ่มส่วนหัว, เพิ่มพารามิเตอร์ URL, เพิ่มข้อมูล และทำงานอื่นๆ อีกมากมายเมื่อสื่อสารกับเว็บแอปพลิเคชัน
OpenCV-Python
OpenCV-Python เป็นไลบรารีที่นักพัฒนาใช้ในการประมวลผลรูปภาพสำหรับการประยุกต์ใช้เชิงคอมพิวเตอร์วิทัศน์ ซึ่งมีฟังก์ชันมากมายสำหรับงานประมวลผลภาพ เช่น การอ่านและเขียนรูปภาพพร้อมกัน, การสร้างสภาพแวดล้อม 3 มิติจาก 2 มิติ และการบันทึกภาพและวิเคราะห์ภาพจากวิดีโอ
Keras
Keras เป็นไลบรารีนิวรัลเน็ตเวิร์กเชิงลึกของ Python ที่รองรับการประมวลผลข้อมูล การแสดงภาพข้อมูล และอื่นๆ อีกมากมายได้อย่างยอดเยี่ยม Keras รองรับนิวรัลเน็ตเวิร์กมากมาย ซึ่งมีโครงสร้างแบบโมดูลที่ให้ความยืดหยุ่นในการเขียนแอปพลิเคชันด้านนวัตกรรม
เฟรมเวิร์ก Python คืออะไร
เฟรมเวิร์ก Python คือชุดข้อมูลของแพคเกจและโมดูล โดยโมดูลคือชุดของโค้ดที่เกี่ยวข้อง และแพคเกจคือชุดของโมดูล ทั้งนี้นักพัฒนาสามารถใช้เฟรมเวิร์ก Python เพื่อสร้างแอปพลิเคชัน Python ได้รวดเร็วขึ้น เนื่องจากไม่ต้องกังวลกับรายละเอียดระดับต่ำต่างๆ เช่น วิธีการที่การสื่อสารเกิดขึ้นในเว็บแอปพลิเคชัน หรือวิธีการที่ Python จะทำให้โปรแกรมเร็วขึ้น Python มีเฟรมเวิร์ก 2 ประเภท ได้แก่
- เฟรมเวิร์กแบบฟูลสแตกมีเกือบทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการสร้างแอปพลิเคชันขนาดใหญ่
- ไมโครเฟรมเวิร์กเป็นเฟรมเวิร์กพื้นฐานที่มีฟังก์ชันการทำงานน้อยที่สุดสำหรับการสร้างแอปพลิเคชัน Python อย่างง่าย นอกจากนี้ยังมีส่วนขยายหากแอปพลิเคชันต้องการฟังก์ชันที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นอีกด้วย
เฟรมเวิร์ก Python ยอดนิยมคืออะไร
นักพัฒนาสามารถใช้เฟรมเวิร์ก Python หลายแบบเพื่อให้การพัฒนามีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงเฟรมเวิร์กต่างๆ ดังต่อไปนี้:
Django
Django เป็นหนึ่งในเฟรมเวิร์กเว็บ Python แบบฟูลสแตกที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดสำหรับการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันขนาดใหญ่ ซึ่งมีคุณสมบัติที่มีประโยชน์หลายอย่าง ซึ่งรวมถึงเว็บเซิร์ฟเวอร์สำหรับการพัฒนาและทดสอบ โปรแกรมเทมเพลตสำหรับสร้างฟรอนต์เอนด์ของเว็บไซต์ และกลไกต่างๆ ด้านความปลอดภัย
Flask
Flask เป็นไมโครเฟรมเวิร์กสำหรับการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันขนาดเล็ก โดยคุณสมบัติของ Flask ได้แก่ การสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากชุมชน เอกสารประกอบที่ให้รายละเอียดครบถ้วน โปรแกรมเทมเพลต การทดสอบหน่วย และเว็บเซิร์ฟเวอร์ในตัว นอกจากนี้ยังมีส่วนขยายสำหรับการสนับสนุนการตรวจสอบความถูกต้อง เลเยอร์การแมปฐานข้อมูล และความปลอดภัยของเว็บอีกด้วย
TurboGears
TurboGears เป็นเฟรมเวิร์กที่ออกแบบมาเพื่อสร้างเว็บแอปพลิเคชันได้เร็วและง่ายขึ้น และคุณสมบัติยอดนิยมบางส่วนของ TurboGears ได้แก่
- โครงสร้างตารางฐานข้อมูลเฉพาะ
- เครื่องมือสำหรับสร้างและจัดการโครงการ
- โปรแกรมเทมเพลตเพื่อสร้างฐานข้อมูล
- โปรแกรมเทมเพลตเพื่อสร้างฟรอนต์เอนด์
- กลไกในการดูแลความปลอดภัยของเว็บ
Apache MXNet
Apache MXNet เป็นเฟรมเวิร์กดีปเลิร์นนิงที่รวดเร็ว ยืดหยุ่น และปรับขนาดได้ ซึ่งนักพัฒนาใช้เพื่อสร้างต้นแบบการวิจัยและแอปพลิเคชันดีปเลิร์นนิง ซึ่งรองรับภาษาการเขียนโปรแกรมหลายภาษา รวมถึง Java, C++, R และ Perl โดยมีชุดเครื่องมือและไลบรารีที่หลากหลายเพื่อรองรับการพัฒนา ตัวอย่างเช่น คุณสามารถค้นหาหนังสือแมชชีนเลิร์นนิง (ML) เชิงโต้ตอบ, ชุดเครื่องมือคอมพิวเตอร์วิทัศน์ และโมเดลดีปเลิร์นนิงสำหรับการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing หรือ NLP) ซึ่งประมวลผลภาษาธรรมชาติต่างๆ เช่น ข้อความและคำพูด
PyTorch
PyTorch เป็นเฟรมเวิร์กสำหรับ ML ที่สร้างขึ้นบนไลบรารี Torch ซึ่งเป็นไลบรารี ML แบบโอเพนซอร์สอีกแบบหนึ่ง โดยนักพัฒนาซอฟต์แวร์ใช้ PyTorch สำหรับแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น NLP, วิทยาการหุ่นยนต์ และคอมพิวเตอร์วิทัศน์ โดยค้นหาข้อมูลที่มีความหมายในรูปภาพและวิดีโอ พวกเขายังใช้ PyTorch เพื่อเรียกใช้แอปพลิเคชันเหล่านั้นใน CPU และ GPU อีกด้วย
Python IDE คืออะไร
สิ่งแวดล้อมสำหรับการพัฒนาแบบเบ็ดเสร็จ (Integrated Development Environment หรือ IDE) คือซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้นักพัฒนามีเครื่องมือที่จำเป็นในการเขียน แก้ไข ทดสอบ และดีบักโค้ดในที่เดียว
Python IDE ยอดนิยมคืออะไร
PyCharm
JetBrains ซึ่งเป็นบริษัทจากเช็กที่พัฒนาเครื่องมือซอฟต์แวร์คือผู้สร้าง PyCharm ซึ่งมีรุ่นฟรีสำหรับชุมชนที่เหมาะสำหรับแอปพลิเคชัน Python ขนาดเล็ก และรุ่นมืออาชีพแบบมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสำหรับการสร้างแอปพลิเคชัน Python ขนาดใหญ่ พร้อมชุดคุณสมบัติทั้งหมดดังต่อไปนี้:
- การเติมโค้ดที่เหลือและการตรวจสอบโค้ดอัตโนมัติ
- การจัดการข้อผิดพลาดและการแก้ไขด่วน
- การทำความสะอาดโค้ดโดยไม่เปลี่ยนฟังก์ชันการทำงาน
- การสนับสนุนเฟรมเวิร์กของเว็บแอปพลิเคชัน เช่น Django และ Flask
- การสนับสนุนภาษาการเขียนโปรแกรมอื่นๆ เช่น JavaScript, CoffeeScript, TypeScript, AngularJS และ Node
- เครื่องมือและไลบรารีทางวิทยาศาสตร์ เช่น Matplotlib และ NumPy
- ความสามารถในการเรียกใช้ แก้จุดบกพร่อง ทดสอบ และปรับใช้แอปพลิเคชันในเครื่องเสมือนระยะไกล
- ดีบักเกอร์เพื่อค้นหาข้อผิดพลาดในโค้ด ตัวสร้างโปรไฟล์เพื่อระบุปัญหาด้านประสิทธิภาพในโค้ด และตัวดำเนินการทดสอบเพื่อเรียกใช้การทดสอบหน่วย
- การรองรับฐานข้อมูลต่างๆ
IDLE
- ใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการมากมาย เช่น Windows, Unix และ macOS
- มีหน้าต่างเชลล์เพื่อเรียกใช้คำสั่งและแสดงเอาต์พุต
- นำเสนอตัวแก้ไขข้อความแบบหลายหน้าต่างที่มีการเน้นไวยากรณ์ของโค้ดและการเติมโค้ดที่เหลืออัตโนมัติ
- มีดีบักเกอร์ของตัวเอง
Spyder
Spyder เป็น IDE แบบโอเพนซอร์สที่นักวิทยาศาสตร์และนักวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากใช้ ซึ่งมอบประสบการณ์การพัฒนาที่ครอบคลุมพร้อมคุณสมบัติต่างๆ สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล การแสดงภาพข้อมูล และการดีบักขั้นสูง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้:
- ตัวแก้ไขโค้ดที่สมบูรณ์ซึ่งรองรับหลายภาษา
- IPython Console แบบโต้ตอบ
- ดีบักเกอร์พื้นฐาน
- ไลบรารีทางวิทยาศาสตร์ เช่น Matplotlib, SciPy และ NumPy
- ความสามารถในการสำรวจตัวแปรในโค้ด
- ความสามารถในการดูเอกสารประกอบแบบเรียลไทม์
Atom
Atom เป็นตัวแก้ไขฟรีที่พัฒนาโดย GitHub ซึ่งรองรับการเขียนโค้ดในภาษาการเขียนโปรแกรมหลายภาษา รวมถึง Python เมื่อใช้ Atom นักพัฒนาจึงสามารถทำงานได้โดยตรงร่วมกับ GitHub ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่คุณสามารถบันทึกโค้ดได้จากส่วนกลาง โดย Atom มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ ได้แก่
- ความสามารถในการใช้ร่วมกับระบบปฏิบัติการหลายระบบ
- การติดตั้งหรือการสร้างแพคเกจใหม่ได้ง่าย
- การเติมโค้ดที่เหลืออัตโนมัติได้เร็วขึ้น
- ความสามารถในการค้นหาไฟล์และโครงการ
- การปรับแต่งอินเทอร์เฟซได้ง่าย
Python SDK คืออะไร
ชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ (SDK) คือชุดเครื่องมือด้านซอฟต์แวร์ที่นักพัฒนาสามารถใช้เพื่อสร้างแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ในภาษาที่กำหนด SDK ส่วนใหญ่มีความเฉพาะเจาะจงสำหรับแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์และระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน โดย Python SDK มีเครื่องมือมากมาย เช่น ไลบรารี ตัวอย่างโค้ด และคู่มือสำหรับนักพัฒนา ซึ่งนักพัฒนาพบว่ามีประโยชน์เมื่อต้องเขียนแอปพลิเคชัน
Boto3 ใน Python คืออะไร
Boto3 เป็น AWS SDK สำหรับ Python โดยคุณสามารถใช้เพื่อสร้าง กำหนดค่า และจัดการบริการของ AWS เช่น Amazon Elastic Compute Cloud (EC2), Amazon Simple Storage Service (S3) และ Amazon DynamoDB Boto3 ยังมี API สองประเภท ได้แก่ API ระดับต่ำ และ API ทรัพยากรสำหรับนักพัฒนา
AWS PyCharm คืออะไร
AWS Toolkit for PyCharm เป็นปลั๊กอินสำหรับ PyCharm IDE ที่ช่วยให้สามารถสร้าง ดีบัก และปรับใช้แอปพลิเคชัน Python บน AWS ได้ง่ายขึ้น การใช้ AWS Toolkit for PyCharm ทำให้นักพัฒนาสามารถเริ่มต้นการพัฒนา Python ได้อย่างง่ายดาย โดยมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์หลายอย่างสำหรับนักพัฒนา ซึ่งรวมถึงคู่มือเริ่มต้นใช้งาน การดีบักอย่างเป็นขั้นตอน และการปรับใช้ IDE