ฟีเจอร์สำหรับเกตเวย์ของ Amazon API

API Gateway ทำให้คุณสามารถสร้าง RESTful API ได้โดยใช้ HTTP API หรือ REST API HTTP API คือวิธีที่ดีที่สุดในการสร้าง API ที่ไม่จำเป็นต้องมีคุณสมบัติการจัดการ API HTTP API นั้นได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับปริมาณงานแบบไร้เซิร์ฟเวอร์และแบ็คเอนด์ HTTP ซึ่งทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 71% และลดเวลาแฝงลง 60% เมื่อเทียบกับ REST API จาก API Gateway API Gateway ก็มี REST API สำหรับปริมาณงานที่จำเป็นต้องมีฟังก์ชันการทำงานพร็อกซี API และคุณสมบัติการจัดการ API ในโซลูชันเดียว เช่น แผนการใช้งานและคีย์ API อ่านเอกสารประกอบของเราเพื่อดูการเปรียบเทียบฟีเจอร์ที่รองรับของ HTTP API และ REST API ใช้ WebSocket API เพื่อสร้างแอปพลิเคชันการสื่อสารสองทางแบบเรียลไทม์ เช่น แอปแชทและแดชบอร์ดการสตรีม หากต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับ RESTful API และ WebSocket API จากเกตเวย์ API โปรดไปที่หน้าคำถามที่พบบ่อย

คุณสามารถกำหนดเส้นทางไปยังทรัพยากรส่วนตัวใน VPC ได้ด้วย API Gateway คุณสามารถสร้าง API สำหรับบริการเบื้องหลัง ALB ส่วนตัว, NLB ส่วนตัว และบริการที่อิงจาก IP ที่ลงทะเบียนใน AWS Cloud Map เช่นงาน ECS โดยใช้ HTTP API

API Gateway ช่วยให้คุณสามารถจัดการการรับส่งข้อมูลไปยังระบบแบ็คเอนด์ได้โดยอนุญาตให้คุณตั้งค่ากฎการควบคุมให้กับวิธีการ HTTP แต่ละวิธีใน API ได้โดยอิงตามจำนวนคำขอต่อวินาที API Gateway จะจัดการปริมาณการรับส่งข้อมูลที่ API ได้รับ คุณจึงมีเวลาหันมาเน้นให้ความสำคัญกับตรรกะและบริการทางธุรกิจแทนการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานได้ หากคุณกำลังใช้ REST API คุณยังสามารถตั้งค่าแคชด้วยคีย์แบบกำหนดเองและเวลาในการคงอยู่ได้โดยใช้เวลาไม่กี่วินาทีเพื่อไม่ให้ข้อมูล API ของคุณเข้าออกบริการแบ็คเอนด์สำหรับคำขอแต่ละรายการมากเกินไปได้

ด้วย API Gateway คุณจึงสามารถสร้าง API แบบกำหนดเองสำหรับโค้ดที่ทำงานใน AWS Lambda ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย จากนั้นก็เรียกใช้โค้ด Lambda จาก API ของคุณ API Gateway สามารถดำเนินการกับโค้ด AWS Lambda ในบัญชีของคุณ เริ่มต้นใช้งานเครื่องตามสถานะ AWS Step Functions หรือเรียกใช้ AWS Elastic Beanstalk, Amazon EC2 หรือบริการเว็บนอก AWS ซึ่งมีตำแหน่งข้อมูล HTTP ที่เข้าถึงได้แบบสาธารณะได้ เมื่อใช้ Console ของ API Gateway คุณจะสามารถกำหนด REST API และทรัพยากรกับวิธีการที่เชื่อมโยงกับ REST API ดังกล่าวที่เกี่ยวข้อง จัดการรอบการใช้งาน API สร้าง SDK ไคลเอ็นต์ และดูตัววัด API ได้

หลังจากปรับใช้และใช้ API แล้ว API Gateway จะให้แดชบอร์ดกับคุณเพื่อคอยติดตามดูการเรียกใช้บริการต่างๆ API Gateway Console ได้รับการผสานรวมกับ Amazon CloudWatch เพื่อให้คุณได้ตัววัดประสิทธิภาพแบ็คเอนด์ เช่น การเรียกใช้ API เวลาแฝง และอัตราข้อผิดพลาด เนื่องจาก API Gateway ใช้ CloudWatch บันทึกข้อมูลการติดตาม คุณจึงสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนแบบกำหนดเองบน API ของ API Gateway ได้ นอกจากนี้ API Gateway ยังสามารถลงบันทึกข้อผิดพลาดในการดำเนินการกับ API ไปยัง CloudWatch Logs เพื่อแก้จุดบกพร่องได้ง่ายขึ้น

ในการให้สิทธิ์และตรวจสอบยืนยันคำขอ API ที่ส่งไปยังบริการต่างๆ ของ AWS นั้น API Gateway สามารถช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากเวอร์ชันเด่น 4 ของ REST API และ WebSocket API เมื่อใช้การให้สิทธิ์เวอร์ชันเด่น 4 คุณสามารถใช้ AWS Identity and Access Management (IAM) และเข้าถึงนโยบายเพื่ออนุญาตสิทธิ์ให้แก่ API และทรัพยากร AWS อื่นๆ ของคุณได้ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ฟังก์ชัน AWS Lambda เพื่อตรวจสอบยืนยันและให้สิทธิ์โทเค็นผู้ถือ เช่น โทเค็น JWT หรือการยืนยัน SAML ได้

API Gateway ช่วยให้คุณจัดการระบบนิเวศของนักพัฒนาของบริษัทอื่นที่เข้าถึง API ของคุณได้ คุณสามารถสร้างคีย์ API บน API Gateway กำหนดสิทธิ์การเข้าถึงแบบละเอียดบนคีย์ API แต่ละรายการ และกระจายสิทธิ์ดังกล่าวให้แก่นักพัฒนาของบริษัทอื่นเพื่อให้เข้าถึง API ของคุณได้ ทั้งยังสามารถกำหนดแผนที่จะตั้งค่าการควบคุมและกำหนดขีดจำกัดโควตาคำขอสำหรับคีย์ API แต่ละรายการได้ ระบบไม่บังคับให้ใช้คีย์ API และหากต้องการใช้ ต้องเปิดใช้งานตามแต่ละระดับของวิธีการ

หากคุณกำลังใช้ REST API อยู่ API Gateway สามารถสร้าง SDK ไคลเอ็นต์สำหรับแพลตฟอร์มจำนวนมากได้ ซึ่งคุณสามารถใช้ทดสอบ API ใหม่จากแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วและกระจาย SDK ให้กับนักพัฒนาของบริษัทอื่นได้ SDK ที่สร้างขึ้นจะจัดการคีย์ API และลงชื่อในคำขอโดยใช้ข้อมูลรับรองของ AWS API Gateway สามารถสร้าง SDK ไคลเอ็นต์สำหรับ Java, JavaScript, Java สำหรับ Android, Objective-C หรือ Swift สำหรับ iOS และ Ruby คุณสามารถใช้ AWS CLI เพื่อสร้างและดาวน์โหลด SDK ของ API สำหรับแพลตฟอร์มที่รองรับด้วยการเรียกใช้คำสั่ง get-sdk ได้

หากคุณใช้ REST API อยู่ API Gateway ช่วยให้คุณเรียกใช้ API หลายๆ เวอร์ชันได้พร้อมกันเพื่อให้แอปพลิเคชันเรียกใช้ API เวอร์ชันก่อนหน้านี้ต่อได้แม้จะเผยแพร่เวอร์ชันล่าสุดไปแล้ว นอกจากนี้ API Gateway ยังช่วยให้คุณจัดการขั้นต่างๆ ของการเผยแพร่ API แต่ละเวอร์ชันได้ เช่น อัลฟา เบตา และการผลิต คุณสามารถกำหนดค่าแต่ละขั้นของ API ให้โต้ตอบกับตำแหน่งข้อมูลแบ็คเอนด์ต่างๆ ได้โดยอิงตามการตั้งค่า API ของคุณ คุณสามารถเชื่อมโยงขั้นและเวอร์ชันของ API ที่ต้องการเข้ากับชื่อโดเมนที่กำหนดเองและจัดการผ่าน API Gateway ได้ การจัดการขั้นและเวอร์ชันช่วยให้คุณทดสอบ API เวอร์ชันใหม่ๆ ที่ปรับปรุงหรือเพิ่มฟังก์ชันการทำงานใหม่ให้แก่ API รุ่นก่อนหน้านี้ได้อย่างง่ายดาย และเพื่อให้แน่ใจว่ามีความเข้ากันได้แบบย้อนหลังขณะที่ชุมชนผู้ใช้กำลังจะเปลี่ยนมาใช้งานรุ่นล่าสุด