คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Amazon Neptune

ใช่ โปรดดู Amazon Neptune SLA ฐานข้อมูล Neptune รองรับภาษาสอบถามสองภาษาสำหรับแบบจำลองข้อมูลกราฟคุณสมบัติ ภาษาการท่องกราฟโอเพ่นซอร์ส Apache TinkerPop Gremlin และภาษาสอบถาม openCypher และสำหรับแบบจำลองข้อมูล Resource Description Framework (RDF) Neptune รองรับภาษาสอบถาม W3C มาตรฐานเปิด SPARQL

ได้ คลัสเตอร์ Neptune Database แต่ละคลัสเตอร์สามารถจัดเก็บได้ทั้งข้อมูลกราฟคุณสมบัติและข้อมูล RDF Neptune มีตําแหน่งข้อมูล Gremlin (HTTPS และ WebSocket), ตําแหน่งข้อมูล openCypher (HTTPS และ Bolt) และตําแหน่งข้อมูล REST ของโปรโตคอล SPARQL 1.1

สําหรับกราฟคุณสมบัติ คุณสามารถเรียกใช้การสืบค้น Gremlin หรือ openCypher บนข้อมูลเดียวกันได้โดยไม่คํานึงถึงภาษาที่ใช้ในการป้อนข้อมูลนั้น คุณอาจพบว่าการใช้ Gremlin สะดวกกว่าสําหรับเวิร์กโหลดบางอย่างและ openCypher สะดวกกว่าสำหรับงานอื่น คุณไม่สามารถดําเนินการสืบค้นข้อมูลกราฟคุณสมบัติ (Gremlin หรือ openCypher) ผ่านข้อมูล RDF หรือในทางกลับกัน

Neptune Database มีเซิร์ฟเวอร์ Apache TinkerPop Gremlin ที่รองรับทั้งการเชื่อมต่อ HTTPS และ WebSocket เมื่อคุณจัดเตรียมอินสแตนซ์ของ Neptune คุณสามารถกําหนดค่าแอปพลิเคชัน TinkerPop ที่คุณมีอยู่เพื่อใช้ตำแหน่งข้อมูลที่บริการให้มา ดูเพิ่มเติมที่ การเข้าถึงกราฟผ่าน Gremlin

ไม่ Neptune Gremlin Server รองรับไคลเอนต์ที่เข้ากันได้กับ Apache TinkerPop โดยใช้การเชื่อมต่อทั้ง WebSockets และ HTTPS REST รุ่นล่าสุดของ Neptune Database สนับสนุน TinkerPop 3.6.x โปรดดู เอกสารประกอบ สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม

เนื่องจาก Neptune สนับสนุนภาษาการสืบค้น openCypher คุณสามารถย้ายเวิร์กโหลด Cypher หรือ Neo4j ส่วนใหญ่ที่ใช้โปรโตคอล Bolt หรือ HTTPS ไปยัง Neptune ได้ สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีการย้ายแอปพลิเคชัน openCypher โปรดอ่าน คู่มือการย้ายระบบ ในเอกสารประกอบ

Neptune ให้ตําแหน่งข้อมูล HTTPS REST ที่ใช้ SPARQL 1.1 Protocol เมื่อคุณจัดเตรียมอินสแตนซ์บริการแล้ว คุณสามารถกําหนดค่าแอปพลิเคชันของคุณให้ชี้ไปยังตําแหน่งข้อมูล SPARQL ได้ ดูเพิ่มเติมที่ การเข้าถึงกราฟผ่าน SPARQL

ไม่ ตําแหน่งข้อมูล SPARQL ของ Neptune จะทํางานร่วมกับไคลเอ็นต์ใด ๆ ที่รองรับโปรโตคอล SPARQL 1.1

ใช่ Neptune เป็นไปตาม ACID โดยมีความสอดคล้องทันทีบนอินสแตนซ์ตัวเขียนหลัก และความสอดคล้องในท้ายที่สุดบนอินสแตนซ์แบบจําลองการอ่าน

ในทำนองเดียวกัน Neptune Database คือกลไกฐานข้อมูลแบบกราฟประสิทธิภาพสูงที่สร้างตามวัตถุประสงค์ สำหรับคุณสมบัติการจัดการบางอย่าง เช่น การจัดการวงจรชีวิตของอินสแตนซ์ การเข้ารหัสในพื้นที่จัดเก็บด้วยคีย์ AWS Key Management Service (AWS KMS) และการจัดการกลุ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย Neptune จะใช้เทคโนโลยีการปฏิบัติงานที่ใช้ร่วมกับ Amazon Relational Database Service (Amazon RDS)

Neptune Database ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับแอปพลิเคชันกราฟที่ต้องการอัตราการโอนถ่ายข้อมูลสูงและการสืบค้นกราฟที่มีเวลาแฝงต่ำ ด้วยการสนับสนุนแบบจําลองการอ่านสูงสุด 15 รายการ Neptune Database สามารถรองรับการสืบค้นได้หลายแสนรายการต่อวินาที

ใช่ Neptune ใช้การเพิ่มประสิทธิภาพการสืบค้นสําหรับการสืบค้น Gremlin, openCypher และ SPARQL หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดู กลไกการสืบค้นทางเลือก Amazon Neptune (DFE)

ไม่ Amazon Neptune คือกลไกฐานข้อมูลแบบกราฟประสิทธิภาพสูงที่สร้างตามวัตถุประสงค์ Neptune จัดเก็บและนําทางข้อมูลกราฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้สถาปัตยกรรมที่ปรับให้เหมาะสมกับขนาดในหน่วยความจําเพื่อให้สามารถประเมินการสืบค้นได้อย่างรวดเร็วผ่านกราฟขนาดใหญ่

ดูที่ หน้าราคา ของเราเพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับราคาปัจจุบัน

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWS Region ที่มี Neptune Database โปรดดูตาราง AWS Region

ไม่ใช่ การจําลองแบบ Neptune Database รวมไว้ในราคาแล้ว คุณจะถูกเรียกเก็บค่าบริการตามพื้นที่เก็บที่ฐานข้อมูลของคุณใช้ไปในชั้นฐานข้อมูล ไม่ใช่พื้นที่เก็บข้อมูลที่ใช้ในชั้นพื้นที่เก็บข้อมูลเสมือนของ Neptune

Neptune Database ได้รับการออกแบบมาเพื่อขจัดการดำเนินการ I/O ที่ไม่จำเป็น เพื่อลดต้นทุนและเพื่อให้แน่ใจว่ามีทรัพยากรพร้อมสำหรับการให้บริการการรับส่งข้อมูลการอ่าน/การเขียน การดำเนินการ I/O การเขียนจะใช้เฉพาะเมื่อมีการส่งระเบียนข้อมูลบันทึกธุรกรรมไปยังชั้นพื้นที่เก็บข้อมูลเท่านั้น เพื่อช่วยให้การเขียนมีความทนทาน การดำเนินการเขียน I/O จะนับเป็นหน่วย 4 KB ตัวอย่างเช่น ระเบียนข้อมูลบันทึกธุรกรรมที่มีขนาด 1024 ไบต์จะนับเป็นการดำเนินงาน I/O หนึ่งรายการ

อย่างไรก็ตาม กลไก Neptune Database สามารถจัดกลุ่มการดำเนินการเขียนที่เกิดขึ้นพร้อมกันที่มีข้อมูลบันทึกธุรกรรมน้อยกว่า 4 KB รวมกันได้เพื่อปรับการใช้งาน I/O ให้เหมาะสม Neptune จะไม่ส่งหน้าฐานข้อมูลที่มีการปรับเปลี่ยนไปยังชั้นพื้นที่จัดเก็บ จึงช่วยให้ประหยัดการใช้งาน IO ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งต่างจากกลไกฐานข้อมูลแบบดั้งเดิม

พื้นที่เก็บข้อมูลขั้นต่ำสุดมีขนาด 10 GiB ตามการใช้งานฐานข้อมูลของคุณ พื้นที่จัดเก็บ Neptune Database จะเติบโตโดยอัตโนมัติสูงสุด 128 TiB โดยเพิ่มขึ้นทีละ 10 GiB โดยไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของฐานข้อมูล คุณไม่จำเป็นต้องจัดเตรียมพื้นที่จัดเก็บล่วงหน้า

คุณสามารถปรับขนาดทรัพยากรการประมวลผลที่จัดสรรให้กับอินสแตนซ์ฐานข้อมูลของคุณในคอนโซลการจัดการของ AWS ได้โดยการเลือกอินสแตนซ์ฐานข้อมูลที่ต้องการแล้วเลือกปุ่ม Modify (แก้ไข) หน่วยความจำและทรัพยากร CPU จะได้รับการแก้ไขโดยการเปลี่ยนคลาสอินสแตนซ์ DB ของคุณ

เมื่อคุณแก้ไขคลาสอินสแตนซ์ DB การเปลี่ยนแปลงที่คุณขอจะนำไปใช้ในช่วงเวลาการบำรุงรักษาที่คุณระบุไว้ หรือคุณสามารถใช้ค่าสถานะ "ใช้ทันที" เพื่อให้คำขอเพิ่มทรัพยากรของคุณมีผลทันที ทั้งสองตัวเลือกนี้จะมีผลกระทบต่อความพร้อมใช้งานเป็นเวลาสองสามนาทีขณะที่การปรับขนาดกำลังดำเนินการ พึงระลึกเสมอว่าการเปลี่ยนแปลงระบบที่รอดำเนินการอื่น ๆ จะถูกนำไปใช้ด้วยเช่นกัน

คุณสามารถปรับขนาดความจุฐานข้อมูลของคุณโดยอัตโนมัติด้วย Amazon Neptune แบบไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ Neptune แบบไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ ช่วยให้คุณสามารถเรียกใช้และปรับขนาดเวิร์กโหลดกราฟได้ทันที โดยไม่จําเป็นต้องจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพความจุ Neptune แบบไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ จะกําหนดและจัดเตรียมทรัพยากรการประมวลผลและหน่วยความจําโดยอัตโนมัติเพื่อเรียกใช้ฐานข้อมูลแบบกราฟ และปรับขนาดความจุตามข้อกําหนดที่เปลี่ยนแปลงของเวิร์กโหลดเพื่อรักษาประสิทธิภาพให้สม่ำเสมอ

ใช่ Neptune รองรับการปรับขนาดอัตโนมัติของแบบจําลองการอ่านของอินสแตนซ์ คุณสามารถกําหนดค่าการปรับขนาดอัตโนมัติให้เพิ่มหรือลบแบบจําลองการอ่านโดยอัตโนมัติ เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในข้อกําหนดการเชื่อมต่อหรือเวิร์กโหลดของคุณได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่เอกสารประกอบ

การสํารองข้อมูลอัตโนมัติจะเปิดใช้งานบนอินสแตนซ์ Neptune Database เสมอ การสำรองข้อมูลจะไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของฐานข้อมูล

ได้ อีกทั้งยังไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานขณะถ่ายสแน็ปช็อตอีกด้วย โปรดทราบว่าคุณต้องสร้างอินสแตนซ์ฐานข้อมูลใหม่เพื่อการจัดเก็บข้อมูลจากสแนปช็อตฐานข้อมูล

Neptune Database จะเก็บรักษาสำเนาข้อมูลของคุณโดยอัตโนมัติใน Availability Zone (AZ) สามแห่ง และจะพยายามกู้คืนฐานข้อมูลของคุณใน Availability Zone ที่สมบูรณ์โดยอัตโนมัติโดยไม่มีการสูญเสียข้อมูล หากข้อมูลของคุณไม่พร้อมให้ใช้งานในพื้นที่เก็บข้อมูล Neptune คุณสามารถกู้คืนข้อมูลได้จากสแนปช็อตฐานข้อมูล หรือทำการกู้คืน ณ จุดใดจุดหนึ่งของเวลาในอินสแตนซ์ใหม่ โปรดทราบว่า คุณสามารถทำการกู้คืน ณ จุดใดจุดหนึ่งของเวลาได้สูงสุด 5 นาทีก่อนหน้า

คุณสามารถเลือกที่จะสร้างสแนปช็อตฐานข้อมูลสุดท้ายขณะลบอินสแตนซ์ฐานข้อมูลได้ หากเป็นเช่นนั้น คุณสามารถใช้สแนปช็อตฐานข้อมูลนี้เพื่อกู้คืนอินสแตนซ์ฐานข้อมูลที่ถูกลบในภายหลังได้ Neptune เก็บสแนปช็อตฐานข้อมูลสุดท้ายที่ผู้ใช้สร้างขึ้นมานี้ไว้พร้อมกับสแนปช็อตฐานข้อมูลอื่น ๆ ที่สร้างขึ้นเองหลังจากที่ลบอินสแตนซ์ฐานข้อมูลแล้ว เฉพาะสแนปช็อตฐานข้อมูลเท่านั้นที่จะถูกเก็บไว้หลังจากที่ลบอินสแตนซ์ฐานข้อมูลแล้ว (ตัวอย่างเช่น การสำรองข้อมูลอัตโนมัติที่สร้างขึ้นสำหรับการกู้คืน ณ จุดใดจุดหนึ่งของเวลาจะไม่ถูกเก็บไว้)

ใช่ Neptune ช่วยให้คุณสามารถสร้างสแนปช็อตของฐานข้อมูลของคุณ ซึ่งคุณสามารถใช้ในภายหลังเพื่อกู้คืนฐานข้อมูล คุณสามารถแชร์สแนปช็อตกับบัญชี AWS อื่น แล้วเจ้าของบัญชีผู้รับนั้นจะสามารถใช้สแน็ปช็อตของคุณเพื่อกู้คืนฐานข้อมูลที่มีข้อมูลของคุณได้ คุณยังสามารถเลือกที่จะทำให้สแนปชอตของคุณเป็นสาธารณะ นั่นคือใคร ๆ ก็กู้คืนฐานข้อมูลที่มีข้อมูล (สาธารณะ) ของคุณได้ คุณสามารถใช้คุณสมบัตินี้เพื่อแชร์ข้อมูลระหว่างสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ของคุณ (การใช้งานในสภาพแวดล้อมจริง กระบวนการพัฒนา/ทดสอบ การจัดเตรียม และอื่น ๆ) ที่มีบัญชี AWS ที่แตกต่างกัน รวมทั้งสำรองข้อมูลทั้งหมดของคุณให้ปลอดภัยในบัญชีที่แยกต่างหากในกรณีที่บัญชี AWS หลักของคุณถูกคุกคาม

การแชร์สแนปช็อตระหว่างบัญชีไม่มีค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม คุณอาจถูกเรียกเก็บเงินสำหรับสแนปช็อตนั้น ๆ เอง เช่นเดียวกับฐานข้อมูลใด ๆ ที่คุณกู้คืนจากสแนปช็อตที่แชร์ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าบริการ Amazon Neptune

เราไม่รองรับการแชร์สแนปช็อตฐานข้อมูลอัตโนมัติ หากต้องการแชร์สแนปช็อตโดยอัตโนมัติ คุณต้องสร้างสำเนาสแนปช็อต จากนั้นแชร์สำเนานั้น

คุณสามารถแชร์สแนปช็อตด้วยตนเองกับ ID บัญชี AWS ได้ถึง 20 บัญชี หากคุณต้องการแชร์สแนปช็อตกับบัญชีต่าง ๆ มากกว่า 20 บัญชี คุณสามารถแชร์สแนปช็อตแบบสาธารณะ หรือติดต่อฝ่ายสนับสนุนเพื่อขอให้เพิ่มโควต้าได้

คุณสามารถแชร์สแนปช็อต Neptune Database ของคุณใน AWS Region ที่มี Neptune ให้บริการได้

ไม่ได้ เฉพาะบัญชีที่อยู่ในรีเจี้ยนเดียวกันกับบัญชีที่แชร์สแนปช็อตนั้นเท่านั้นที่เข้าถึงสแนปช็อต Neptune Database ที่คุณแชร์ได้

ได้ คุณสามารถแชร์สแนปช็อต Neptune Database ที่เข้ารหัสได้

ไม่ได้ สแนปช็อต Neptune จะสามารถใช้ได้ภายในบริการเท่านั้น

คลัสเตอร์ Neptune Database สามารถสร้างได้ใน Amazon VPC ที่มีซับเน็ตอย่างน้อยสองซับเน็ตใน Availability Zone อย่างน้อยสองแห่งเท่านั้น เมื่อมีการกระจายอินสแตนซ์คลัสเตอร์ของคุณไปยัง Availability Zone อย่างน้อยสองแห่ง Neptune จะช่วยให้แน่ใจว่ามีอินสแตนซ์ที่พร้อมใช้งานในคลัสเตอร์ฐานข้อมูลของคุณในกรณีที่ Availability Zone ล้มเหลวซึ่งพบได้ยาก โวลุมคลัสเตอร์สําหรับคลัสเตอร์ Neptune Database ของคุณจะครอบคลุม Availability Zone สามแห่งเสมอเพื่อให้พื้นที่เก็บข้อมูลมีความทนทานและมีโอกาสน้อยที่ข้อมูลจะสูญหาย Neptune ได้รับการออกแบบมาให้สามารถจัดการกับความสูญเสียของสำเนาข้อมูลสองชุดได้อย่างโปร่งใสโดยไม่ส่งผลต่อความพร้อมในการเขียนฐานข้อมูล และสามารถจัดการกับความสูญเสียของสำเนาข้อมูลได้ถึงสามชุดโดยไม่ส่งผลต่อความพร้อมในการอ่าน พื้นที่เก็บข้อมูล Neptune ยังสามารถซ่อมแซมตนเองได้ด้วย บล็อกข้อมูลและดิสก์จะได้รับการสแกนอย่างต่อเนื่องเพื่อหาข้อผิดพลาดและทำการซ่อมแซมโดยอัตโนมัติ

หลังจากฐานข้อมูลล้มเหลว Neptune ไม่จำเป็นต้องเล่นข้อมูลบันทึกการทำซ้ำจากจุดตรวจสอบฐานข้อมูลล่าสุด (5 นาทีโดยปกติ) และยืนยันว่าได้มีการนำการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดไปใช้แล้วก่อนที่จะทำให้ฐานข้อมูลพร้อมสำหรับการดำเนินงาน ซึ่งจะต่างจากฐานข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดเวลาในการรีสตาร์ทฐานข้อมูลให้เหลือน้อยกว่า 60 วินาทีในกรณีส่วนใหญ่ Neptune ย้ายบัฟเฟอร์แคชออกจากกระบวนการฐานข้อมูล และทำให้พร้อมใช้งานทันทีเมื่อรีสตาร์ท จึงไม่ต้องจำกัดการเข้าถึงจนกว่าจะมีการนำเข้าแคชใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดทำงาน

Neptune รองรับแบบจำลองการอ่าน ซึ่งใช้โวลุมพื้นฐานเดียวกันกับอินสแตนซ์หลัก Amazon Neptune Replicas ทั้งหมดจะสามารถดูการอัปเดตที่บัญชีหลักสร้างไว้ได้ คลัสเตอร์ Neptune หนึ่งคลัสเตอร์สามารถมีอินสแตนซ์ตัวเขียนได้หนึ่งอินสแตนซ์และแบบจําลองการอ่านสูงสุด 15 รายการ ในกรณีที่อินสแตนซ์ตัวเขียนล้มเหลว แบบจําลองการอ่านจะได้รับการเลื่อนระดับเป็นอินสแตนซ์ตัวเขียนโดยอัตโนมัติ

ใช่ คุณสามารถกำหนดลำดับความสำคัญในการเลื่อนระดับกับแต่ละอินสแตนซ์บนคลัสเตอร์ของคุณได้ เมื่ออินสแตนซ์หลักล้มเหลว Neptune Database จะเลื่อนระดับแบบจำลองที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดให้เป็นอินสแตนซ์หลัก หากมีความขัดแย้งระหว่าง Replica 2 รายการขึ้นไปในระดับความสำคัญเดียวกัน Neptune จะเลื่อนระดับแบบจำลองที่มีขนาดเดียวกันกับอินสแตนซ์หลัก

คุณสามารถแก้ไขชั้นลำดับความสำคัญของอินสแตนซ์ได้ทุกเมื่อ การแก้ไขชั้นลำดับความสำคัญของอินสแตนซ์อย่างเดียวจะไม่กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนระบบ

คุณสามารถกำหนดชั้นลำดับความสำคัญที่ต่ำลงให้แบบจำลองที่คุณไม่ต้องการเลื่อนระดับเป็นอินสแตนซ์ได้ อย่างไรก็ตาม หากแบบจำลองในคลัสเตอร์ที่มีลำดับความสำคัญสูงไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่สามารถใช้งานได้ด้วยเหตุผลใดก็ตาม Neptune จะเลื่อนระดับแบบจำลองที่มีลำดับความสำคัญต่ำกว่า

คุณสามารถเพิ่ม Neptune Replicas ซึ่งใช้พื้นที่เก็บข้อมูลพื้นฐานเดียวกันกับอินสแตนซ์หลักได้ Neptune Replica ใด ๆ สามารถเลื่อนระดับไปเป็นอินสแตนซ์หลักได้โดยที่ไม่สูญเสียข้อมูล จึงสามารถนำไปใช้เพื่อปรับปรุงความทนทานต่อการล้มเหลวได้ในกรณีที่อินสแตนซ์ฐานข้อมูลหลักเกิดความล้มเหลว หากต้องการเพิ่มความพร้อมใช้งานของฐานข้อมูล เพียงสร้างแบบจำลอง 1 ถึง 15 แบบ แล้ว Neptune จะใส่รายการเหล่านั้นไว้ในการเลือกการใช้ระบบสำรองเพื่อกู้คืนข้อมูลหลักในกรณีที่เกิดความล้มเหลวของฐานข้อมูล

การใช้ระบบสำรองเพื่อกู้คืนข้อมูลจะได้รับจัดการโดย Neptune Database โดยอัตโนมัติเพื่อให้แอปพลิเคชันของคุณสามารถดำเนินงานต่อกับฐานข้อมูลต่อได้ในเวลาที่น้อยที่สุดโดยไม่ต้องแทรกแซงการดูแลระบบด้วยตนเอง หากคุณมี Neptune Replica ใน Availability Zone เดียวกันหรือต่างกัน ขณะกำลังใช้ระบบสำรองเพื่อกู้คืนข้อมูล Neptune จะพลิก Canonical Name Record (CNAME) สำหรับตำแหน่งข้อมูลหลักของฐานข้อมูลของคุณไปยังจุดที่แบบจำลองมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับการเลื่อนระดับให้เป็นอินสแตนซ์ใหม่แทน โดยทั่วไปแล้วตั้งแต่ต้นจนจบ การใช้ระบบสำรองเพื่อกู้คืนข้อมูลจะใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาที

นอกจากนี้ ตำแหน่งข้อมูลแบบจําลองการอ่านไม่จําเป็นต้องมีการอัปเดต CNAME ใด ๆ ระหว่างการใช้ระบบสำรองเพื่อกู้คืนข้อมูล หากคุณไม่มี Neptune Replica (เช่น อินสแตนซ์เดียว) Neptune จะพยายามสร้างอินสแตนซ์ฐานข้อมูลใหม่ใน Availability Zone เดียวกันให้เป็นอินสแตนซ์เดิมก่อน หากไม่สามารถทำได้ Neptune จะพยายามสร้างอินสแตนซ์ฐานข้อมูลใน Availability Zone อื่น โดยทั่วไปแล้วตั้งแต่ต้นจนจบ การใช้ระบบสำรองเพื่อกู้คืนข้อมูลจะใช้เวลาไม่เกิน 15 วินาที แอปพลิเคชันของคุณควรร้องขอฐานข้อมูลใหม่ในกรณีที่การเชื่อมต่อขาดหาย

Neptune Database จะตรวจจับปัญหาเกี่ยวกับอินสแตนซ์หลักของคุณโดยอัตโนมัติและจะเริ่มเปลี่ยนเส้นทางปริมาณการอ่าน/เขียนไปเป็น Neptune Database Replica โดยเฉลี่ยแล้ว การใช้ระบบสำรองเพื่อกู้คืนข้อมูลจะเสร็จสิ้นภายใน 30 วินาที นอกจากนี้ การรับส่งข้อมูลการอ่านที่ Neptune Database Replicas ของคุณกำลังแสดงจะถูกขัดจังหวะเล็กน้อย

เนื่องจาก Neptune Database Replica ใช้ปริมาณข้อมูลเท่ากันกับอินสแตนซ์หลัก จึงแทบไม่มีความล่าช้าในการจำลอง โดยปกติ เราจะสังเกตเวลาหน่วงในหน่วยสิบมิลลิวินาที

ใช่ อินสแตนซ์ Amazon Neptune Database ทั้งหมดต้องสร้างขึ้นใน VPC คุณสามารถกำหนดโครงสร้างเครือข่ายเสมือนที่มีความคล้ายกับเครือข่ายแบบเดิมที่คุณอาจใช้งานได้ในศูนย์ข้อมูลของคุณเองด้วย Amazon VPC ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมได้ว่าใครบ้างที่สามารถเข้าถึงฐานข้อมูล Neptune ได้

ปัจจุบันยังไม่รองรับการเข้ารหัสอินสแตนซ์ Neptune ที่ไม่ได้เข้ารหัสที่มีอยู่ หากต้องการใช้การเข้ารหัส Neptune สำหรับฐานข้อมูลที่ไม่ได้เข้ารหัสที่มีอยู่ ให้สร้างอินสแตนซ์ฐานข้อมูลใหม่โดยเปิดใช้งานการเข้ารหัสและย้ายข้อมูลของคุณไปไว้ในฐานข้อมูล

การเข้าถึงฐานข้อมูล Neptune ต้องทําผ่านพอร์ต HTTPS ที่ป้อนในการสร้างฐานข้อมูลภายใน VPC ของคุณ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยให้ข้อมูลของคุณ คําแนะนําทีละขั้นตอนเกี่ยวกับวิธีการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล Neptune ของคุณมีอยู่ใน คู่มือผู้ใช้ Amazon Neptune

คุณสามารถใช้ openCypher ซึ่งเป็นโครงการโอเพนซอร์สที่ทําให้ใช้ภาษา Cypher เพื่อการประมวลผลกราฟ การเรียกใช้อัลกอริทึม Neptune Analytics และเพื่อการค้นหาความคล้ายคลึงกันในเวกเตอร์ได้ง่าย

Neptune Analytics เหมาะอย่างยิ่งกับการสืบค้นกราฟที่เข้าถึงกราฟส่วนใหญ่หรือกราฟทั้งหมด Neptune Analytics เป็นกลไกในหน่วยความจําและสามารถโหลดกราฟขนาดใหญ่เหล่านี้ลงในหน่วยความจําเพื่อส่งมอบการตอบสนองในไม่กี่วินาที นอกจากนี้ Neptune Analytics ยังสามารถให้บริการการสืบค้นการวิเคราะห์หลายพันรายการต่อวินาทีโดยใช้ไลบรารีของอัลกอริธึมการวิเคราะห์กราฟยอดนิยมในการดําเนินการ เช่น การจัดอันดับอินฟลูเอนเซอร์ทางโซเชียล การตรวจจับกลุ่มในการฉ้อโกง หรือการค้นพบรูปแบบในกิจกรรมเครือข่าย สําหรับแอปพลิเคชัน AI ช่วยสร้าง Neptune Analytics สามารถจัดเก็บการฝังเวกเตอร์และทำการค้นหาความคล้ายคลึงกันในเวกเตอร์ได้

คุณสามารถเลือกคลัสเตอร์ Neptune ที่มีอยู่เป็นแหล่งที่มาของข้อมูล ซึ่งจะถูกโหลดลงใน Neptune Analytics โดยอัตโนมัติ

Neptune Analytics รองรับอัลกอริธึม 12 แบบสําหรับการค้นพบเส้นทาง การตรวจจับชุมชน (การจัดกลุ่ม) การระบุข้อมูลสําคัญ (ศูนย์กลาง) และความคล้ายคลึงกันเชิงปริมาณ อัลกอริธึมการค้นพบเส้นทางใช้สําหรับกรณีการใช้งาน เช่น การวางแผนเส้นทางสําหรับการเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทาน ในขณะที่อัลกอริทึมส่วนกลาง เช่น อันดับหน้าจะระบุผู้ขายที่มีอิทธิพลมากที่สุดในกราฟ ในทํานองเดียวกัน อัลกอริทึม เช่น ส่วนประกอบที่เชื่อมต่อการจัดกลุ่ม และอัลกอริธึมส่วนกลาง สามารถใช้สําหรับกรณีการใช้งานการตรวจจับการฉ้อโกงเพื่อตรวจสอบว่าเครือข่ายที่เชื่อมต่อเป็นกลุ่มเพื่อนหรือกลุ่มการฉ้อโกงที่เกิดจากกลุ่มนักต้มตุ๋นที่ทำงานร่วมกัน

ใช่ Neptune Analytics เป็นไปตามมาตรฐาน ACID และมีความสม่ำเสมอสูง

Neptune Analytics รองรับดัชนีการค้นหาเวกเตอร์ในการฝัง (สูงสุด 65,000 มิติ) ที่จัดเก็บไว้ในข้อมูลกราฟของคุณ

Neptune Analytics รองรับดัชนีการค้นหาเวกเตอร์หนึ่งดัชนีในการฝังที่จัดเก็บไว้ในข้อมูลกราฟของคุณ

ไม่ คุณไม่จําเป็นต้องมีฐานข้อมูลเวกเตอร์แยกต่างหากใน Neptune Analytics Neptune Analytics รองรับดัชนีการค้นหาเวกเตอร์ในการฝัง (สูงสุด 65,000 มิติ) ที่จัดเก็บไว้ในข้อมูลกราฟของคุณ Neptune Analytics ให้การค้นหาเวกเตอร์ที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถเรียกดำเนินการได้โดยตรงจากภาษาการสืบค้น openCypher ที่ใช้สําหรับการเขียนการสืบค้นกราฟของคุณ

Neptune Analytics จัดเก็บเวกเตอร์และรองรับ Hierarchical Navigable Small Worlds (HNSW) สําหรับการจัดทําดัชนีเวกเตอร์และการค้นหาความคล้ายคลึงกัน คุณควรใช้ฐานข้อมูลเวกเตอร์แยกต่างหากหากคุณต้องการใช้อัลกอริธึมการจัดทําดัชนีและการค้นหาความคล้ายคลึงกันที่แตกต่างกัน หรือหากคุณต้องการใช้ดัชนีหลายตัวที่สร้างขึ้นจากคุณสมบัติที่แตกต่างกัน

ได้ คุณสามารถใช้ Neptune Analytics ใน Amazon VPC ได้ สําหรับการเข้าถึงแบบส่วนตัว คุณสามารถสร้างกราฟโดยปิดใช้งาน "การเข้าถึงสาธารณะ" (ค่าเริ่มต้น) และระบุซับเน็ตใน VPC Neptune Analytics จะสร้างตําแหน่งข้อมูลอินเทอร์เฟซ VPC ต่อกราฟที่จัดการโดยผู้ขอใน VPC ของคุณ คุณจะสามารถแนบกลุ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและนโยบายตำแหน่งข้อมูลไปกับตำแหน่งข้อมูลได้ แต่คุณจะไม่สามารถลบตำแหน่งข้อมูลได้ ตำแหน่งข้อมูลอินเทอร์เฟซ VPC มาตรฐานจะมีค่าบริการ

ใช่ คุณสามารถเลือกเปิดใช้งานตําแหน่งข้อมูลเฉพาะกราฟสาธารณะเพื่อเชื่อมต่อกับกราฟผ่านอินเทอร์เน็ตได้ Neptune Analytics ทำให้ไคลเอนต์ทั้งหมดต้องตรวจสอบสิทธิ์ คําขอทั้งหมดจะต้องลงนาม SigV4 และการเชื่อมต่อทั้งหมดต้องใช้ ID กราฟเพื่อโต้ตอบกับกราฟ

ใช่ Neptune Analytics นําเสนอการใช้งานอินสแตนซ์แบบ Multi-AZ พร้อมความพร้อมใช้งานและความทนทานที่เพิ่มขึ้น ระบบจะจัดเตรียมการสำรองข้อมูลแบบ Hot Standby ใน Availability Zone แยกต่างหากเป็นค่าเริ่มต้น เมื่อมีการสำรองข้อมูลแบบ Hot Standby การใช้ระบบสำรองเพื่อกู้คืนข้อมูลจะใช้เวลาไม่กี่วินาที หากไม่มีการสแตนด์บาย บริการจะจัดเตรียมความสามารถในการประมวลผลพื้นฐานใหม่ภายในไม่กี่นาที

ดูหน้าราคา Neptune เพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับราคาปัจจุบัน

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Region ที่มี Neptune Analytics โปรดดูตาราง AWS Region

Neptune ML รองรับ Gremlin และ SPARQL

Neptune ML ให้การจําแนกโหนด, การจําแนกหลายคลาส, รีเกรสชันของโหนด, การจําแนก Edge, การจําแนกคลาสเดียว, รีเกรสชันของ Edge และการคาดการณ์ลิงก์ (Edge) สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดไปที่ คู่มือผู้ใช้ Neptune

รายละเอียดราคาสามารถพบได้ในหน้า การกําหนดราคา Neptune