คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ AWS Wickr

หากคุณมีบัญชี AWS เข้าสู่ระบบ AWS Management Console เพื่อสร้างเครือข่าย AWS Wickr จากนั้น คุณจะสามารถ เชิญผู้ใช้ และจัดการเครือข่ายของคุณใน Admin Console ของ AWS Wickr ได้

AWS WickrGov ต้องมีบัญชี AWS GovCloud (US) ที่ใช้งานอยู่ หากต้องการลงทะเบียนบัญชี AWS GovCloud (US) คุณต้องเป็นบุคคลหรือหน่วยงานที่ตรงตามข้อกำหนดของ AWS GovCloud (US) ข้อกำหนดความต้องการมีดังนี้

• เจ้าของบัญชีต้องเป็นนิติบุคคลในสหรัฐอเมริกาที่จัดตั้งขึ้นเพื่อทำธุรกิจในสหรัฐอเมริกาและมีตำแหน่งที่ตั้งอยู่บนดินของสหรัฐอเมริกา
• เจ้าของบัญชีจะต้องเป็นชาวอเมริกัน เป็นพลเมืองของสหรัฐ หรือผู้ถือกรีนการ์ดที่ยังไม่หมดอายุ
• เจ้าของบัญชีจะต้องสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบการขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ระหว่างประเทศ (International Traffic in Arms Regulations - ITAR) ได้
• นอกจากนี้ AWS ยังใช้การควบคุมแบบอัตโนมัติเพื่อป้องกันการสร้างบัญชีปลอมอีกด้วย ซึ่งอาจทำให้การสร้างบัญชีใหม่ถูกปฏิเสธ หากคุณเชื่อว่าคำขอของคุณถูกปฏิเสธเนื่องจากข้อผิดพลาด โปรดติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ AWS เพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมในการสร้างบัญชี

หากต้องการดาวน์โหลด AWS Wickr โปรดดูดาวน์โหลด AWS Wickr หากคุณต้องการดาวน์โหลดผลิตภัณฑ์ Wickr อื่น ๆ เช่น ข้อเสนอภายในองค์กรของเรา ให้คลิกที่นี่

หากต้องการดาวน์โหลดแอปสำหรับ AWS WickrGov โปรดดูที่ ดาวน์โหลด AWS WickrGov

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWS Wickr คุณสามารถดูได้ที่คู่มือสำหรับผู้ใช้ AWS Wickr

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ใช้งานแขกของ AWS Wickr โปรดดูคู่มือผู้ใช้ AWS Wickr

คุณสามารถสร้างเครือข่าย Wickr ในบัญชีสมาชิก AWS ทั้งหมดขององค์กร AWS ได้มากเท่าที่คุณต้องการ

Wickr นำเสนอตัวเลือกแบบโฮสต์ด้วยตนเองในองค์กร 2 ตัวเลือก ได้แก่ Wickr Enterprise และ Wickr RAM<2

ติดต่อเราเพื่อเริ่มต้น

หากต้องการดาวน์โหลดแอปสำหรับ Wickr Enterprise โปรดดูที่ ดาวน์โหลด Wickr Enterprise

หากต้องการสร้างการสนทนากลุ่ม ให้ใช้ Notepad หรือปากกาในแท็บห้อง หลังจากที่คุณเพิ่มผู้ติดต่อที่ต้องการแล้ว ให้เลือกสร้างเพื่อเริ่มกลุ่มใหม่ และเพิ่มชื่อผู้ใช้ใหม่ไปยังรายชื่อผู้ติดต่อของคุณ

คุณสามารถเลือกข้อความแล้วเลือกตัวเลือกติดดาวข้อความเพื่อติดดาวได้ คุณสามารถเข้าถึงข้อความ รูปภาพ และไฟล์ที่เลือกได้อย่างรวดเร็วจากแถบค้นหาโดยคลิกไอคอนรูปดาวเพื่อดูและค้นหารายการที่ติดดาวเอาไว้

ในแง่ของความเป็นส่วนตัว ระบบการส่งข้อความแบบดั้งเดิมเป็นแบบ "อิงตามผู้รับ" โดยผู้รับเป็นผู้ตัดสินใจถึงระยะเวลาและวิธีการแชร์ข้อมูลดังกล่าว AWS Wickr มอบการควบคุมให้อยู่ในมือของผู้ส่ง AWS Wickr ช่วยให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่าข้อความส่วนตัวของคุณจะไม่ปรากฏขึ้นบนโทรศัพท์ที่สูญหายหรือที่ถูกขโมยไป หรือที่ติดอยู่ในบล็อกอินเทอร์เน็ต หรือปรากฏขึ้นมาใหม่เมื่อเว็บไซต์โซเชียลมีเดียที่คุณใช้ก่อนหน้านี้ถูกแฮ็ก

มีความเป็นไปได้ว่าข้อความจะหมดอายุแล้ว ผู้ใช้แต่ละคนที่ส่งข้อความจะสามารถเลือกระยะเวลาที่ข้อความจะถูกบันทึกได้ โดยการตั้งค่าตัวจับเวลาการหมดอายุ นอกจากนี้ ผู้ส่งยังสามารถตั้งค่าตัวจับเวลาในการทำลายตนเองเมื่ออ่านได้อีกด้วย ซึ่งจะเริ่มนับถอยหลังจากที่มีการปลดล็อกหรืออ่านข้อความ

เมื่อตัวจับเวลาการหมดอายุนั้นสิ้นสุดลง ข้อความจะลบตนเองโดยอัตโนมัติ โดยไม่สนใจว่าจะเหลือเวลาในการอ่านก่อนข้อมูลจะทำลายตนเองเท่าไร หรือคุณจะได้เปิดอ่านข้อความนั้นแล้วหรือไม่ก็ตาม

ผู้ดูแลระบบสามารถเปิดหรือปิดใช้งานใบเสร็จรับเงินการอ่านใน AWS Wickr Admin Console ได้ สำหรับคำแนะนำโปรดดูที่นี่

เมื่อเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ใบตอบรับการอ่านจะปรากฏในบทสนทนาแบบตัวต่อตัว เครื่องหมายถูกเพียงอันเดียวจะปรากฏสำหรับข้อความที่ส่ง และวงกลมทึบพร้อมเครื่องหมายถูกจะปรากฏขึ้นสำหรับข้อความที่อ่านแล้ว

คุณสามารถดูสถานะต่าง ๆ ได้จากจุดสีเขียวถัดจากชื่อและอวาตารของพวกเขาเพื่อระบุว่าพวกเขากำลังใช้งานอยู่หรือไม่ สิ่งนี้เรียกว่าตัวเลือกการแสดงตน ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเห็นว่าผู้ใช้รายอื่นกำลังออนไลน์อยู่หรือไม่ และดูเวลาล่าสุดที่พวกเขาใช้งานอยู่

การกดไอคอนโทรศัพท์ที่ด้านขวาบนของห้อง AWS Wickr, กลุ่ม หรือหน้าจอข้อความโดยตรงจะเป็นการแสดงเมนู “เริ่มการโทร”

ใช่ คุณสามารถโทรหาผู้ใช้ทั้งในเครือข่ายและนอกเครือข่ายใน AWS Wickr, AWS WickrGov และ Wickr Enterprise ได้

ไม่ ไม่สามารถบันทึกการโทรภายใน AWS Wickr ได้

ไม่ได้ ข้อความจะได้รับการเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทาง และจะสามารถอ่านได้เฉพาะบนอุปกรณ์ของผู้ใช้ปลายทางเท่านั้น    

เรามีความตั้งใจที่จะจำกัดการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลลูกค้าไว้เพียงแต่สิ่งที่จำเป็นในการให้บริการตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลและความเป็นส่วนตัวที่บังคับใช้เท่านั้น เราอาจจัดเก็บเนื้อหาของคุณไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของเรา (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าตัวจับเวลาการหมดอายุของข้อมูล) เพื่อส่งมอบให้กับผู้ใช้ที่ออกจากระบบ โปรดดูประกาศความเป็นส่วนตัวของเราเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม

โปรดดูประกาศความเป็นส่วนตัวของเราเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูข้อกำหนดในการให้บริการของเรา

ตามค่าเริ่มต้น เครือข่าย AWS Wickr จะสามารถสื่อสารกับทุกคนที่ใช้ AWS Wickr ได้

ผู้ดูแลระบบสามารถปิดใช้งานระบบเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับเครือข่าย AWS Wickr ภายนอกได้จากภายในการตั้งค่ากลุ่มเพื่อความปลอดภัย

ID ของเครือข่ายสามารถอยู่ในรายการที่อนุญาตเพื่อจำกัดผู้ที่ทีมของคุณสามารถสื่อสารด้วย

ตามค่าเริ่มต้น จะไม่มีการเปิดใช้งานการเก็บรักษาข้อมูลใน Wickr ผู้ดูแลระบบ Wickr สำหรับเครือข่ายของคุณจะต้องสร้างและเปิดใช้คุณสมบัติการเก็บรักษาข้อมูลเพื่ออนุญาตให้เนื้อหาที่ส่งจากเครือข่าย Wickr ของคุณได้รับการเก็บรักษาไว้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตรวจสอบและการกำกับดูแล หลังจากเปิดใช้คุณสมบัติการเก็บรักษาข้อมูลแล้ว ผู้ใช้ภายในเครือข่าย Wickr ของคุณจะเห็นการแจ้งเตือนในแอปเพื่อแจ้งให้ทราบถึงการบันทึกเนื้อหาที่ส่ง เนื้อหาส่วนกลางภายนอกที่ส่งเข้ามา (ข้อความ ไฟล์ ข้อมูลเมตา ฯลฯ ที่ส่งจากผู้ติดต่อนอกเครือข่าย Wickr ของคุณ) จะไม่ถูกบันทึกไว้ Wickr ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่บันทึกไว้ได้ ลูกค้าจะเป็นผู้เก็บและจัดการข้อมูลทั้งหมด ผู้ดูแลระบบของลูกค้าจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาที่เก็บไว้นั้นได้รับการจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยตามข้อบังคับหรือนโยบายที่ส่งผลต่อการสื่อสารทางธุรกิจของพวกเขา

ไม่ได้ การเก็บรักษาข้อมูลจะบันทึกเฉพาะข้อความที่ส่งภายในเครือข่าย AWS Wickr หรือข้อความจากเครือข่ายของคุณไปยังผู้อื่นเท่านั้น และจะไม่บันทึกข้อความจากภายนอกที่มาจากผู้ใช้ในเครือข่าย AWS Wickr ต่าง ๆ

AWS Wickr พร้อมให้บริการในรีเจี้ยนต่อไปนี้ AWS เอเชียแปซิฟิก (มาเลเซีย สิงคโปร์ ซิดนีย์ โตเกียว) AWS แคนาดา (ภาคกลาง) AWS ยุโรป (แฟรงก์เฟิร์ต ลอนดอน สตอกโฮล์ม ซูริก) AWS สหรัฐอเมริกาฝั่งตะวันออก (เวอร์จิเนียฝั่งเหนือ) และ GovCloud สหรัฐอเมริกาฝั่งตะวันตก (AWS WickrGov) ภูมิภาคเหล่านี้เป็นพื้นที่ที่ประมวลผลและจัดเก็บข้อมูล

AWS WickrGov มีให้บริการในภูมิภาค AWS GovCloud สหรัฐอเมริกาตะวันตก (โอเรกอน)

ผู้ดูแลระบบสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับบอทของ AWS Wickr รวมถึงการตั้งค่า บอทที่มีอยู่ และการปรับแต่งบอท 

คุณจะสามารถจัดการแผนและผู้ใช้ได้ใน Admin Console ของ AWS Wickr ตามแผนที่เลือกและจำนวนผู้ใช้ตามสัดส่วน ระบบจะเรียกเก็บเงินคุณแบบรายเดือน คุณสามารถค้นหาใบเรียกเก็บเงิน AWS Wickr ของคุณได้ใน หน้าการเรียกเก็บเงิน ของ AWS Management Console

ผู้ดูแลระบบเครือข่าย AWS Wickr สามารถกรอกแบบฟอร์มนี้เพื่อส่งคำขอย้ายเครือข่าย Wickr Pro ที่มีอยู่ไปยัง AWS Wickr ได้ เราจำเป็นต้องมี ID ของบัญชี AWS และ ID เครือข่าย Wickr Pro เพื่อเชื่อมต่อบัญชี AWS และ Wickr ของคุณ เราจะติดต่อคุณหลังจากที่ย้ายเครือข่ายของคุณจาก Wickr Pro ไปยัง AWS Wickr สำเร็จแล้ว

สําหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดไปที่ คู่มือการย้ายของเรา

หากคุณยังไม่มีบัญชี AWS ให้กรอกแบบฟอร์มในหน้าลงทะเบียน หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างบัญชี AWS คลิกที่นี่

Wickr Pro จะหยุดให้บริการในวันที่ 31 มกราคม 2024 หากคุณไม่ย้ายเครือข่าย Wickr Pro ไปยัง AWS Wickr ภายในวันที่ที่ระบุ เครือข่ายและข้อมูลที่อยู่ในนั้นจะถูกลบออก หากต้องการย้ายไปยัง AWS Wickr ให้ คลิกที่นี่เพื่อเริ่มต้นโดยกรอกแบบฟอร์มการย้าย

การย้ายจะเริ่มในวันที่ 1 มีนาคม 2023 อาจใช้เวลาถึงสองสัปดาห์ในการย้ายให้เสร็จสมบูรณ์ เราจะติดต่อคุณเมื่อย้ายเครือข่ายของคุณไปยัง AWS Wickr สำเร็จแล้ว

ด้วย AWS Wickr คุณจะได้รับประโยชน์จากคุณสมบัติใหม่ ๆ รวมถึงการผสานรวมกับคอนโซลการจัดการของ AWS เพื่อสร้างและจัดการเครือข่ายรวมถึงการเริ่มต้นใช้งานที่ได้รับการปรับปรุงสำหรับการลงชื่อเข้าใช้ของผู้ใช้ การเก็บรักษาข้อมูล AWS Wickr จะเป็นการรักษาข้อมูลสำหรับการปฏิบัติตามข้อกำหนด การระงับทางกฎหมาย และวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบ 

เราได้อัปเดตแอปพลิเคชันมือถือและเดสก์ท็อป Wickr Pro ที่มีอยู่เป็น AWS Wickr เรียบร้อยแล้ว เพื่อมอบประสบการณ์การย้ายที่มีความคล่องตัว การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่ควรทำให้ข้อมูลสำหรับผู้ใช้ Wickr Pro สูญหาย การอัปเดตแอปพลิเคชันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการย้ายเท่านั้น ผู้ดูแลระบบเครือข่าย Wickr ต้องกรอก แบบฟอร์มการย้าย เพื่อดำเนินการให้เสร็จสิ้น

ดูแลระบบ Wickr Pro เข้าถึ ง AWS Wickr Admin Console ได้จากปุ่มการควบคุมของผู้ดูแลระบบในแอปพลิเคชันเดสก์ท็อป Wickr ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานได้ใน AWS Wickr AWS Wickr จะใช้ AWS Identity and Access Management (IAM) เพื่อควบคุมว่าใครบ้างที่จะสามารถได้รับการรับรองความถูกต้อง (ลงชื่อเข้าใช้) และอนุญาต (มีสิทธิ์) ให้ใช้ Admin Console ของ AWS Wickr ลูกค้า AWS Wickr สามารถกำหนด นโยบายการเข้าถึงแบบเต็มรูปแบบของ AWS Wickr ให้กับผู้ดูแลระบบในคอนโซลการจัดการของ AWS ได้ แล้วจากนั้นผู้ดูแลระบบจะสามารถใช้หน้า AWS Wickr ในคอนโซลการจัดการของ AWS เพื่อเข้าถึง Admin Console ของ Wickr ได้

AWS Wickr ผสานรวมกับ AWS Billing เพื่อให้คุณเข้าใจถึงการใช้จ่าย ดูและชำระใบแจ้งหนี้ จัดการการตั้งค่าการเรียกเก็บเงิน และอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย ในขณะทำการย้าย เราจะหยุดเรียกเก็บเงินใน Wickr Admin Console และเปลี่ยนไปใช้ AWS Billing เพื่อให้คุณสามารถดูและจัดการใบเรียกเก็บเงินได้ใน AWS Billing Dashboard ขณะนี้ คุณสามารถใช้ประโยชน์จากวิธีการชำระเงินต่าง ๆ ได้ เช่น ชำระเงินด้วยใบแจ้งหนี้ จากบัญชีธนาคาร และวิธีอื่น ๆ อีกมากมาย

หลังจากย้ายไปยัง AWS Wickr แล้ว ลูกค้า Wickr Pro จะไม่สามารถเข้าถึง Wickr Support ได้อีกต่อไป AWS Basic Support มีให้สำหรับลูกค้า AWS ทั้งหมดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงความช่วยเหลือด้านการเรียกเก็บเงินด้วย หากต้องการรับการสนับสนุนทางเทคนิคและคุณสมบัติการสนับสนุนอื่น ๆ คุณสามารถตรวจสอบAWS Support ต่าง ๆ และอัปเกรดให้ตรงกับความต้องการทางธุรกิจของคุณได้

AWS Wickr ไม่มีแผนฟรีแบบตลอดเวลา แต่มีให้ทดลองใช้ฟรีสามเดือน เรียนรู้เพิ่มเติมที่หน้าราคา AWS Wickr หากคุณเป็นลูกค้า Wickr Pro Basic (ฟรีตลอดเวลา) คุณจะต้องอัปเกรดเป็นแผนแบบชำระเงินใน Admin Console ของ Wickr ก่อนส่งแบบฟอร์มการย้าย

Wickr Pro และ Wickr Pro Basic (ฟรีตลอดเวลา) จะหยุดให้บริการในวันที่ 31 มกราคม 2024 หากคุณไม่ย้ายแผน Wickr Pro หรือ Wickr Pro Basic ไปยัง AWS Wickr ภายในวันที่ดังกล่าว เครือข่ายและข้อมูลที่อยู่ในนั้นจะถูกลบออก หากต้องการย้ายไปยัง AWS Wickr ให้ คลิกที่นี่ เพื่อเริ่มต้นโดยกรอกแบบฟอร์มการย้าย

หากต้องการรับการสนับสนุนทางเทคนิคและคุณสมบัติการสนับสนุนอื่น ๆ คุณสามารถตรวจสอบแผนAWS Support ของเราได้

มีวิธีการติดต่อต่าง ๆ สำหรับ AWS Wickr Support