Amazon CodeGuru
ดำเนินการตรวจสอบโค้ดโดยอัตโนมัติและเพิ่มประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันด้วยคำแนะนำที่ขับเคลื่อนด้วย ML
ตรวจจับช่องโหว่ด้านความปลอดภัยและดำเนินการตรวจสอบโค้ดโดยอัตโนมัติ
Amazon CodeGuru เป็นเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาที่ให้คำแนะนำอันชาญฉลาดในการปรับปรุงคุณภาพโค้ดให้ดียิ่งขึ้นและระบุบรรทัดโค้ดที่ใช้ทรัพยากรมากที่สุดของแอปพลิเคชัน ผสานรวม CodeGuru เข้ากับเวิร์กโฟลว์การพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ของคุณเพื่อดำเนินการตรวจสอบโค้ดโดยอัตโนมัติในระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชันและตรวจสอบประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันอย่างต่อเนื่องในการใช้งานจริง ตลอดจนให้คำแนะนำและเบาะแสที่มองเห็นได้เกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงคุณภาพโค้ด ประสิทธิภาพของแอปพลิเคชัน และลดต้นทุนโดยรวมลง
CodeGuru Reviewer ใช้แมชชีนเลิร์นนิ่งและการให้เหตุผลแบบอัตโนมัติเพื่อระบุปัญหาที่สำคัญ ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย และบักที่พบได้ยากในระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชัน รวมถึงให้คำแนะนำในการปรับปรุงคุณภาพโค้ดให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย เรียนรู้เพิ่มเติม »
CodeGuru Profiler ช่วยให้นักพัฒนาค้นหาบรรทัดโค้ดที่ใช้ทรัพยากรมากที่สุดของแอปพลิเคชันได้โดยการช่วยให้นักพัฒนาเข้าใจลักษณะการทำงานด้านรันไทม์ของแอปพลิเคชัน ระบุและนำโค้ดที่ไม่มีประสิทธิภาพออก ปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น และลดต้นทุนในการการประมวลผลลงอย่างมาก เรียนรู้เพิ่มเติม »
วิธีการทำงาน

Amazon CodeGuru Reviewer
CodeGuru Reviewer ซึ่งผ่านการฝึกอบรมจากความรู้และประสบการณ์หลายสิบปี ใช้แมชชีนเลิร์นนิ่งและการให้เหตุผลแบบอัตโนมัติ, AWS และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านความปลอดภัย และบทเรียนที่เรียนรู้อย่างหนักจากการตรวจสอบโค้ดนับล้านบนคลังโอเพนซอร์สและคลังของ Amazon หลายพันแห่งเพื่อดำเนินการตรวจสอบโค้ดโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะตรวจพบข้อบกพร่องและช่องโหว่ที่พบได้ยากในโค้ด Java และ Python รวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการแก้ไข
เพื่อเริ่มตรวจสอบโค้ด คุณสามารถเชื่อมโยงคลังโค้ดที่มีอยู่บน GitHub, GitHub Enterprise, Bitbucket หรือ AWS CodeCommit ใน CodeGuru Console ได้
ประโยชน์
ตรวจพบปัญหาเกี่ยวกับโค้ดก่อนที่จะกระทบการใช้งานจริง
สำหรับการตรวจสอบโค้ด นักพัฒนาจะส่งโค้ดของตนไปยัง GitHub, GitHub Enterprise, Bitbucket Cloud และ AWS CodeCommit และเพิ่ม CodeGuru Reviewer เป็นหนึ่งในผู้ตรวจสอบโค้ด โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ในกระบวนการพัฒนา CodeGuru Reviewer จะวิเคราะห์ฐานโค้ดที่มีอยู่ในคลัง ระบุบักที่พบได้ยากและปัญหาที่สำคัญโดยมีความถูกต้องแม่นยำสูง ให้คำแนะนำอันชาญฉลาดเกี่ยวกับวิธีการแก้ไข ตลอดจนสร้างพื้นฐานสำหรับการตรวจสอบโค้ดที่ต่อเนื่องกัน
แก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
ปรับปรุงคุณภาพโค้ดให้ดียิ่งขึ้นในเชิงรุกด้วยการตรวจสอบที่ต่อเนื่องกัน
สำหรับทุกคำขอดึงข้อมูลที่เริ่มต้นขึ้น CodeGuru Reviewer จะวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงโค้ดที่เพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติและให้คำแนะนำเกี่ยวกับคำขอดึงข้อมูลทันที นอกจากนี้ยังรองรับการสแกนคลังหรือฐานโค้ดทั้งหมดสำหรับการบำรุงรักษาโค้ดเป็นระยะๆ และโครงการริเริ่มในการตรวจสอบการดำเนินงานของโค้ดเพื่อรับรองว่าคุณภาพโค้ดของคุณนั้นคงเส้นคงวา CodeGuru Reviewer ยังสามารถผสานรวมเข้ากับไปป์ไลน์ CI/CD ของคุณได้อีกด้วย คุณสามารถกำหนดค่าให้ทำงานในการเรียกดูข้อมูล การพุช หรือการเรียกใช้งานตามกำหนดเวลาของไปป์ไลน์คุณ แล้วดูคุณภาพโค้ดและคำแนะนำด้านความปลอดภัยภายใน AWS Console หรือภายในอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของผู้ให้บริการ CI/CD ของคุณ
Amazon CodeGuru Profiler
CodeGuru Profiler จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับแอปพลิเคชันที่ทำงานในการใช้งานจริงและระบุบรรทัดโค้ดที่ใช้ทรัพยากรมากที่สุด CodeGuru Profiler จะค้นหาการเพิ่มประสิทธิภาพของแอปพลิเคชัน แนะนำวิธีการแก้ไขเพื่อลดการใช้ CPU ลดต้นทุนในการประมวลผล และปรับปรุงประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันให้ดียิ่งขึ้นอยู่เสมอ
คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ทำงานบน Amazon EC2, Amazon ECS, AWS Fargate, Amazon EKS, AWS Lambda หรือในองค์กรได้
ประโยชน์
แก้ไขปัญหาด้านประสิทธิภาพ
CodeGuru Profiler จะวิเคราะห์ข้อมูลรันไทม์ของแอปพลิเคชันคุณเพื่อช่วยคุณปรับปรุงการใช้งาน CPU และหน่วยความจำให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงแก้ไขปัญหาด้านประสิทธิภาพส่งผลให้มีเวลาแฝงและปริมาณงานที่ดียิ่งขึ้น CodeGuru Profiler จะทำงานอย่างต่อเนื่องในการใช้งานจริงโดยมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดในการใช้งาน CPU คุณสามารถใช้ข้อมูลสรุปฮีปเพื่อหาว่ามีสิ่งใดใช้หน่วยความจำของคุณบ้างได้
ค้นพบความผิดปกติและปัญหาที่พบบ่อยในประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันของคุณ
CodeGuru Profiler จะตรวจจับความผิดปกติในประสิทธิภาพของวิธีการสำคัญในสแตกของแอปพลิเคชันโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะเริ่มใช้ CPU มากขึ้นหรือแสดงเวลาแฝงที่เพิ่มขึ้น พร้อมกับรายงานการตรวจจับสิ่งผิดปกติที่อัปเดตทุกๆ ห้านาที การตรวจจับและการแจ้งเตือนตั้งแต่เนิ่นๆ นี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาบานปลายในการใช้งานจริง และช่วยให้คุณมีเวลามากพอในการแก้ไขก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อความพร้อมของบริการและประสบการณ์ของลูกค้าคุณ
ตรวจจับบรรทัดโค้ดที่ใช้ทรัพยากรมากที่สุดได้แล้ววันนี้
หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ CodeGuru โปรดไปที่ฟอรัมนักพัฒนา Amazon CodeGuru
ความสำเร็จของลูกค้า

“ขณะนี้เรามีไมโครเซอร์วิสมากกว่า 300 รายการที่ได้รับการตรวจสอบและจัดการโดย CodeGuru Reviewer Amazon CodeGuru Profiler จะวิเคราะห์ประสิทธิภาพด้านรันไทม์ของแอปพลิเคชันและให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการที่สามารถเพิ่มความเร็วของแอปพลิเคชันได้โดยใช้แมชชีนเลิร์นนิ่ง เราจึงไม่ต้องพยายามให้นักพัฒนาของเราค้นหาวิธีการที่ดีที่สุดในการกำหนดค่าจากมุมมองด้านประสิทธิภาพ”
Rich Benner ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของ Wheel Pros

“Amazon CodeGuru ช่วยให้ทีมพัฒนาของ Cognizant ส่งมอบซอฟต์แวร์ที่มีความสำคัญยิ่งต่อภารกิจสำหรับโปรแกรมการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของลูกค้าเรา การรวม CodeGuru ไว้ในเวิร์กโฟลว์การพัฒนาของเราจะช่วยปรับปรุงและดำเนินการตรวจสอบโค้ดโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ทีม DevOps ของเราระบุและแก้ไขปัญหาด้านการทำงานและที่ไม่ใช่ด้านทำงานในเชิงรุก รวมถึงรับรองว่าการปรับใช้จะเกินข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามข้อกำหนดของลูกค้าเราในอุตสาหกรรมและรีเจี้ยนต่างๆ”
Todd Carey หัวหน้าฝ่ายกลุ่มธุรกิจ AWS ระดับโลกของ Cognizant

“CodeGuru ช่วยให้เราสร้างการตรวจสอบโค้ดแบบอัตโนมัติในไปป์ไลน์ของเราโดยตรงได้ กล่าวคือ ทีมของผมสามารถปรับใช้โค้ดได้เร็วขึ้นและมั่นใจมากยิ่งขึ้น เราใช้คำแนะนำของ CodeGuru Reviewer โดยอิงตาม ML และการให้เหตุผลแบบอัตโนมัติ เพื่อมุ่งเน้นไปที่การแก้ไขและการปรับปรุงโค้ดให้ดียิ่งขึ้น แทนที่จะค้นหาข้อบกพร่องด้วยตนเอง การเพิ่ม Python เข้ามาทำให้เราเข้าถึง CodeGuru ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น"
Edwn Nikoi ผู้จัดการฝ่ายเทคนิคของ IT Consortium

“Amazon CodeGuru ช่วยให้วงจรการพัฒนาซอฟต์แวร์ของเรารวดเร็วยิ่งขึ้นได้โดยการลดความซับซ้อนของกระบวนการตรวจสอบโค้ด ในฐานะผู้ตรวจสอบโค้ดหลักในทีม ตอนนี้ผมสามารถมุ่งเน้นไปที่ฟังก์ชันการทำงานและคุณสมบัติของโค้ดได้มากขึ้น แทนที่จะต้องค้นหาช่องโหว่ด้านความปลอดภัยและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่อาจไม่ได้รับการปฏิบัติตาม"
Bob Lee III ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ ConnectCareHero

“ที่ Atlassian บริการต่างๆ ของเรามีการเช็กอินหลายร้อยครั้งต่อการปรับใช้ แม้ว่าการตรวจสอบโค้ดจากทีมพัฒนาของเราจะช่วยป้องกันไม่ให้บักเข้าไปสู่การใช้งานจริงได้อย่างยอดเยี่ยม แต่การคาดการณ์ว่าระบบจะทำงานภายใต้ความเครียดหรือจัดการรูปร่างของข้อมูลที่ซับซ้อนก็ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถทำได้เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรามีการปรับใช้หลายครั้งต่อวัน เวลาที่เราตรวจพบความผิดปกติในการใช้งานจริง เราสามารถลดเวลาการตรวจสอบจากหลายวันเป็นไม่กี่ชั่วโมงและบางครั้งก็เหลือเพียงไม่กี่นาทีด้วยคุณสมบัติการสร้างโปรไฟล์อย่างต่อเนื่องของ Amazon CodeGuru ขณะนี้นักพัฒนาของเราทุ่มเทมากยิ่งขึ้นในการส่งมอบความสามารถที่แตกต่างกัน และใช้เวลาน้อยลงในการตรวจสอบปัญหาในสภาพแวดล้อมการผลิตของเรา”
Zak Islam หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมและทีมเทคโนโลยีของ Atlassian
เรียนรู้วิธีการที่โปรไฟล์ Atlassian ให้บริการในการใช้งานจริงด้วย CodeGuru Profiler »

“ที่ DevFactory เราจัดการโค้ดมากกว่า 600 ล้านบรรทัดทั่วทั้งผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ระดับองค์กรมากกว่าหนึ่งร้อยรายการ องค์ประกอบสำคัญของแผนงานในอนาคตของเราคือการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเราให้เป็นผลิตภัณฑ์แบบ cloud-native ซึ่งจะใช้ประโยชน์จากบริการที่มีการจัดการจำนวนมากที่ AWS มีให้ การสร้างสถาปัตยกรรมในองค์กรแบบดั้งเดิมขึ้นใหม่ และการแปลงสถาปัตยกรรมดังกล่าวสำหรับระบบคลาวด์จะทำให้เกิดปัญหาด้านวิศวกรรมมากมาย ตั้งแต่การติดตามบริการล่าสุดทั้งหมดไปจนถึงการปรับกระบวนทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับสถาปัตยกรรมเหล่านี้ Amazon CodeGuru คือเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ พร้อมกับรับรองว่าเราใช้ประโยชน์จากบริการเหล่านี้ด้วยแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดทั้งหมดที่มีอยู่ หากไม่มีเครื่องมืออย่าง Amazon CodeGuru Reviewer เราก็คงไม่สามารถเขียนผลิตภัณฑ์ทั้งหมดใหม่อย่าง FogBugz ให้เป็นแบบ cloud-native ของ AWS ได้ ขณะนี้เราใช้ Amazon CodeGuru Profiler เพื่อปรับผลิตภัณฑ์จำนวนมากให้เหมาะสม ซึ่งรวมถึงแพลตฟอร์ม ‘No Ops’ ที่ใช้คอนเทนเนอร์ของ EngineYard ตลอดจนแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันของ Jive รุ่นใหม่”
Rahul Subramaniam ผู้บริหารสูงสุดของ DevFactory
เรียนรู้วิธีการที่ DevFactory สร้างแอปพลิเคชันที่ดียิ่งขึ้นโดยใช้ CodeGuru »
บล็อกและบทความ
สำรวจบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

Amazon DevOps Guru
DevOps Guru ช่วยให้นักพัฒนาและผู้ให้บริการมีวิธีที่ง่ายดายยิ่งขึ้นในการวัดและการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการดำเนินงานและความพร้อมใช้งานของแอปพลิเคชันให้ดียิ่งขึ้น