Java คืออะไร


สร้างบัญชี AWS
ดูข้อเสนอฟรีเกี่ยวกับแมชชีนเลิร์นนิง
สร้าง ติดตั้ง และใช้งานแอพพลิเคชั่นแมชชีนเลิร์นนิงในคลาวด์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ดูบริการเกี่ยวกับแมชชีนเลิร์นนิง
สร้างสรรค์นวัตกรรมได้เร็วยิ่งขึ้นด้วยชุดบริการ AI และ ML ที่ครอบคลุมที่สุด
ดูการอบรมแมชชีนเลิร์นนิง
เริ่มต้นการฝึกอบรมเกี่ยวกับแมชชีนเลิร์นนิงด้วยเนื้อหาที่จัดทำขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญของ AWS
อ่านบล็อกเกี่ยวกับแมชชีนเลิร์นนิง
อ่านข่าวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แมชชีนเลิร์นนิงล่าสุดจาก AWS
Java คืออะไร เราใช้ภาษาการเขียนโปรแกรม Java สำหรับอะไรบ้าง เหตุใด Java จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในหมู่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ในยุคปัจจุบัน Java ทำงานอย่างไร Java API คืออะไร เครื่องเสมือนของ Java คืออะไร ความเป็นมาของการเขียนโปรแกรม สภาพแวดล้อมรันไทม์ของ Java วิธีการเขียนโปรแกรมใน Java มีอะไรบ้าง AWS SDK สำหรับ Java คืออะไร

Java คืออะไร

Java เป็นภาษาการเขียนโปรแกรมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการเขียนโค้ดเว็บแอปพลิเคชัน ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในหมู่นักพัฒนามากว่าสองทศวรรษ โดยมีการใช้งานแอปพลิเคชัน Java หลายล้านรายการในปัจจุบัน Java เป็นภาษาแบบหลายแพลตฟอร์ม เชิงวัตถุ และใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลางที่สามารถใช้เป็นแพลตฟอร์มได้ในตัวเอง ซึ่งเป็นภาษาการเขียนโปรแกรมที่รวดเร็ว ปลอดภัย และเชื่อถือได้สำหรับการเขียนโค้ดทุกประเภทตั้งแต่แอปมือถือและซอฟต์แวร์ระดับองค์กร ไปจนถึงแอปพลิเคชัน Big Data และเทคโนโลยีฝั่งเซิร์ฟเวอร์

เราใช้ภาษาการเขียนโปรแกรม Java สำหรับอะไรบ้าง

เราใช้ภาษาการเขียนโปรแกรม Java สำหรับอะไรบ้าง 

เนื่องจาก Java เป็นภาษาที่ใช้งานได้ฟรีและใช้งานได้อย่างหลากหลาย จึงใช้สร้างซอฟต์แวร์ที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่นและแบบกระจาย การใช้งาน Java โดยทั่วไปมีดังนี้:

1     การพัฒนาเกม

เกมมือถือ เกมคอมพิวเตอร์ และวิดีโอเกมยอดนิยมจำนวนมากสร้างขึ้นด้วย Java แม้แต่เกมสมัยใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น แมชชีนเลิร์นนิงหรือความจริงเสมือนต่างก็สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี Java

2     การประมวลผลบนระบบคลาวด์

Java มักจะถูกกล่าวถึงว่าเป็น WORA หรือระบบที่เขียนเพียงครั้งเดียวและทำงานได้ทุกที่ ซึ่งเหมาะสำหรับแอปพลิเคชันบนระบบคลาวด์แบบกระจายศูนย์ โดยผู้ให้บริการระบบคลาวด์เลือกภาษา Java เพื่อเรียกใช้โปรแกรมบนแพลตฟอร์มพื้นฐานที่หลากหลาย ได้แก่

3     Big Data

Java ถูกนำไปใช้สำหรับกลไกการประมวลผลข้อมูลที่สามารถทำงานร่วมกับชุดข้อมูลที่ซับซ้อนและข้อมูลแบบเรียลไทม์จำนวนมหาศาลได้

4     ปัญญาประดิษฐ์

Java เป็นขุมพลังในการขับเคลื่อนไลบรารีแมชชีนเลิร์นนิง โดยความเสถียรและความเร็วทำให้ Java เหมาะสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ เช่น การประมวลผลภาษาธรรมชาติและดีปเลิร์นนิง

5     อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง

Java ถูกนำไปใช้เพื่อตั้งโปรแกรมเซนเซอร์และฮาร์ดแวร์ในอุปกรณ์ Edge ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้อย่างอิสระ

Java เป็นที่นิยมเนื่องจากได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่าย โดยเหตุผลบางส่วนที่นักพัฒนายังคงเลือก Java มากกว่าภาษาการเขียนโปรแกรมอื่นๆ ได้แก่

แหล่งข้อมูลสนับสนุนการเรียนรู้คุณภาพสูง

Java มีอยู่มานานแล้ว จึงมีแหล่งข้อมูลสนับสนุนการเรียนรู้มากมายสำหรับโปรแกรมเมอร์หน้าใหม่ เอกสารประกอบโดยละเอียด หนังสือที่ครอบคลุม และหลักสูตรต่างๆ พร้อมสนับสนุนนักพัฒนาตลอดช่วงการเรียนรู้ นอกจากนี้ ผู้เริ่มต้นสามารถเริ่มเขียนโค้ดใน Java หลักก่อนที่จะย้ายไปยัง Java ขั้นสูงได้

ฟังก์ชันและไลบรารีในตัว

เมื่อใช้ Java นักพัฒนาไม่จำเป็นต้องเขียนฟังก์ชันใหม่ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น แต่ Java มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ของฟังก์ชันและไลบรารีในตัวเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันต่างๆ 

การสนับสนุนจากชุมชนอย่างต่อเนื่อง

Java มีผู้ใช้งานจำนวนมากและชุมชนที่สามารถสนับสนุนนักพัฒนาได้เมื่อต้องเผชิญกับความท้าทายในการเขียนโค้ด นอกจากนี้ซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม Java ยังได้รับการดูแลและอัปเดตอย่างสม่ำเสมออีกด้วย

เครื่องมือการพัฒนาคุณภาพสูง

Java นำเสนอเครื่องมือต่างๆ เพื่อสนับสนุนการแก้ไข การดีบัก การทดสอบ การปรับใช้ และการจัดการการเปลี่ยนแปลงโดยอัตโนมัติ โดยเครื่องมือเหล่านี้ทำให้ Java ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเขียนโปรแกรม

ใช้งานได้บนทุกแพลตฟอร์ม

โค้ด Java สามารถทำงานได้บนทุกแพลตฟอร์มพื้นฐาน เช่น Windows, Linux, iOS หรือ Android โดยไม่ต้องเขียนใหม่ ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน ซึ่งเราต้องการเรียกใช้แอปพลิเคชันบนอุปกรณ์หลายเครื่อง

ความปลอดภัย

ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดโค้ด Java ที่ไม่น่าเชื่อถือผ่านเครือข่ายและเรียกใช้ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยซึ่งไม่สามารถทำอันตรายใดๆ ได้ โดยโค้ดที่ไม่น่าเชื่อถือดังกล่าวไม่สามารถทำให้ระบบโฮสต์ติดไวรัสได้ และไม่สามารถอ่านหรือเขียนไฟล์จากฮาร์ดไดรฟ์ได้ นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดค่าระดับและข้อจำกัดด้านความปลอดภัยใน Java ได้สูงอีกด้วย

Java ทำงานอย่างไร

ภาษาการเขียนโปรแกรมทั้งหมดเป็นวิธีสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ต่างๆ ในขณะที่ฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์ตอบสนองต่อการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น ดังนั้นภาษาการเขียนโปรแกรมระดับสูง เช่น Java จึงทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างภาษามนุษย์และภาษาของฮาร์ดแวร์ หากต้องการใช้งาน Java นักพัฒนาต้องทำความเข้าใจสองสิ่งต่อไปนี้:

1 ภาษา Java และ API

นี่คือการสื่อสารส่วนหน้าระหว่างนักพัฒนาและแพลตฟอร์ม Java

2 เครื่องเสมือนของ Java

นี่คือการสื่อสารส่วนหลังระหว่างแพลตฟอร์ม Java และฮาร์ดแวร์พื้นฐาน ลองดูแต่ละรายการเหล่านี้โดยละเอียดด้านล่าง

Java API คืออะไร

Java กำหนดไวยากรณ์และความหมายของภาษาการเขียนโปรแกรม Java ซึ่งรวมถึงคำศัพท์และกฎพื้นฐานที่ใช้เขียนอัลกอริธึม เช่น ประเภทข้อมูลพื้นฐาน บล็อก if/else ลูป ฯลฯ

API คือส่วนประกอบซอฟต์แวร์ที่สำคัญซึ่งมาพร้อมกับแพลตฟอร์ม Java ส่วนประกอบเหล่านี้เป็นโปรแกรม Java ที่เขียนไว้ล่วงหน้าที่สามารถนำฟังก์ชันที่มีอยู่เดิมมาใส่ไว้ในโค้ดของคุณเองได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้ Java API เพื่อรับวันที่และเวลา ดำเนินการคำนวณทางคณิตศาสตร์ หรือจัดการข้อความต่างๆ ได้ 

โดยโค้ดแอปพลิเคชัน Java ใดๆ ที่เขียนขึ้นโดยนักพัฒนามักจะรวมโค้ดใหม่และโค้ดที่มีอยู่เดิมจาก Java API และไลบรารี Java เข้าด้วยกัน

เครื่องเสมือนของ Java คืออะไร

เครื่องเสมือนของ Java ทำหน้าที่เป็นตัวแบ่งระดับชั้นสำหรับการจัดการเพิ่มเติมระหว่างแพลตฟอร์ม Java และฮาร์ดแวร์พื้นฐานของเครื่อง โดยซอร์สโค้ด Java สามารถทำงานได้บนคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง JVM เท่านั้น ซึ่งสาเหตุที่ต้องใช้เครื่องเสมือนของ Java จะอยู่ในความเป็นมาของการเขียนโปรแกรม

ความเป็นมาของการเขียนโปรแกรม

เมื่อภาษาการเขียนโปรแกรมธรรมชาติได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรก ภาษาเหล่านี้จะแบ่งออกเป็นสองประเภทกว้างๆ โดยขึ้นอยู่กับวิธีที่ภาษาดังกล่าวสื่อสารกับฮาร์ดแวร์พื้นฐาน

  1. คอมไพเลอร์: โปรแกรมทั้งหมดเขียนขึ้นในไวยากรณ์ที่เหมือนภาษาอังกฤษธรรมชาติด้วยคอมไพเลอร์ จากนั้นภาษาจะคอมไพล์ (หรือแปล) โค้ดทั้งหมดเป็นภาษาเครื่อง โดยโค้ดที่คอมไพล์แล้วจะทำงานบนฮาร์ดแวร์
  2. ตัวแปล: ตัวแปลจะช่วยแปลทุกคำสั่งโค้ดระดับสูงเป็นภาษาเครื่องได้ทันที  โดยฮาร์ดแวร์จะเรียกใช้คำสั่งที่เขียนไว้ได้ทันทีก่อนที่จะดูคำสั่งถัดไป

สภาพแวดล้อมรันไทม์ของ Java

โปรแกรม Java เป็นภาษาแรกที่รวมทั้งสองวิธีข้างต้นเข้าด้วยกันโดยใช้เครื่องเสมือนของ Java (JVM) โดยเรียกคอมไพเลอร์โค้ด Java ว่าเครื่องเสมือนของ Java ซึ่งจะคอมไพล์ไฟล์ Java เป็นไบต์โค้ดก่อน ทั้งนี้ไบต์โค้ด Java สามารถทำงานได้ใน JVM เท่านั้น จากนั้น JVM จะแปลงไบต์โค้ดเพื่อเรียกใช้บนแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์พื้นฐาน ดังนั้นหากแอปพลิเคชันทำงานบนคอมพิวเตอร์ Windows แล้ว JVM จะแปลงไบต์โค้ดดังกล่าวสำหรับ Windows แต่หากแอปพลิเคชันทำงานบนแพลตฟอร์มแบบโอเพนซอร์สเช่น Linux แล้ว JVM จะแปลงไบต์โค้ดดังกล่าวสำหรับ Linux 

วิธีการเขียนโปรแกรมใน Java มีอะไรบ้าง

หากต้องการเริ่มต้นเขียนโปรแกรมใน Java คุณต้องติดตั้ง Java Edition ในระบบก่อน Java ประกอบด้วย 4 รุ่นหลักดังนี้: 

  1. Java Standard Edition (Java SE)
  2. Java Enterprise Edition (Java EE)
  3. Java Micro Edition (Java ME)

Java SE คืออะไร

Java Standard Edition เป็นแพลตฟอร์มการเขียนโปรแกรม Java หลัก ซึ่งประกอบด้วยไลบรารีและ API ทั้งหมดที่โปรแกรมเมอร์ต้องการสำหรับการพัฒนา Java โดย Open Java Development Kit (OpenJDK) เป็นการนำ Java SE มาใช้ฟรีและเป็นแบบโอเพนซอร์ส

Amazon Corretto คือการเผยแพร่ OpenJDK ที่พร้อมสำหรับการผลิตแบบหลายแพลตฟอร์มโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งสามารถใช้แทนการเผยแพร่ Java SE จำนวนมากได้ทันที และมาพร้อมกับการสนับสนุนระยะยาวที่ไม่มีค่าใช้จ่ายจาก Amazon โดยช่วยให้คุณเรียกใช้สภาพแวดล้อมเดียวกันในระบบคลาวด์ ในองค์กร และในเครื่องของคุณได้

AWS SDK สำหรับ Java คืออะไร

AWS SDK สำหรับ Java ทำให้การใช้บริการของ AWS ง่ายขึ้นโดยการจัดหาชุดไลบรารีที่สอดคล้องและเป็นที่คุ้นเคยสำหรับนักพัฒนา Java ซึ่งรองรับการกำหนดสาระสำคัญในระดับที่สูงขึ้นเพื่อการพัฒนาที่ง่ายขึ้น ทั้งนี้ไลบรารี Java แบบโอเพนซอร์สที่ให้ความสำคัญกับ AWS นั้นพร้อมใช้งานร่วมกับตัวอย่างโค้ดและคู่มืออ้างอิง Java API

ตัวอย่างโค้ด SDK ประกอบด้วยตัวอย่างโค้ด Java และกรณีการใช้งานจริงสำหรับบริการของ AWS เพื่อช่วยเร่งการพัฒนาแอปพลิเคชันของคุณ นอกจากนี้ คู่มืออ้างอิง Java API จะอธิบายการทำงานของ API สำหรับ AWS SDK สำหรับ Java เวอร์ชันล่าสุด นอกจากนี้ คู่มืออ้างอิงดังกล่าวยังมีตัวอย่างคำขอ การตอบกลับ และข้อผิดพลาดสำหรับโปรโตคอลบริการเว็บที่รองรับอีกด้วย

เริ่มต้นใช้งาน AWS SDK สำหรับ Java ได้ที่ คู่มือนักพัฒนา หรือไปที่ AWS Java Developer Center

ขั้นตอนต่อไปบน AWS