การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของฟิลิปปินส์

ภาพรวม

รัฐบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของฟิลิปปินส์ ปี ค.ศ. 2012 และกฎระเบียบและข้อบังคับที่เป็นผลมาจากรัฐบัญญัติดังกล่าว (กฎหมายว่าด้วยความเป็นส่วนตัวในฟิลิปปินส์) บังคับใช้กับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศฟิลิปปินส์ รวมถึงเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการถ่ายโอนออกนอกประเทศเพื่อนำไปประมวลผล

AWS ให้ความระมัดระวังกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลของคุณ ความปลอดภัยที่ AWS นั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากโครงสร้างที่เป็นหัวใจหลักของเรา สร้างมาเฉพาะสำหรับระบบคลาวด์และออกแบบมาให้สอดคล้องต่อข้อกำหนดความปลอดภัยที่เข้มงวดที่สุดในโลก โครงสร้างของเราได้รับการตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันเพื่อให้แน่ใจถึงการรักษาความลับ ความถูกต้อง และความพร้อมใช้งานของข้อมูลของลูกค้าของเรา ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยระดับโลกที่ตรวจสอบโครงสร้างนี้ยังได้สร้างและรักษาตัวเลือกบริการด้านความปลอดภัยอันหลากหลายของเราไว้ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถลดความยุ่งยากในการดำเนินการอย่างสอดคล้องกับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและกฎระเบียบของคุณด้วย ในฐานะลูกค้าของ AWS ไม่ว่าอุตสาหกรรมของคุณจะมีขนาดเท่าใดหรือตั้งอยู่ที่ใด คุณมีสิทธิ์ในการใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ของเราที่ผ่านการทดสอบกับเฟรมเวิร์กการรับประกันคุณภาพที่เข้มงวดที่สุดของผู้ทดสอบภายนอกมาแล้ว

AWS ใช้และรักษามาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยทั้งทางเทคนิคและในระดับองค์กรในบริการโครงสร้างพื้นฐาน AWS Cloud โดยอยู่ภายใต้เฟรมเวิร์กการรับประกันและการรับรองด้านความปลอดภัยระดับโลกซึ่งประกอบด้วย ISO 27001, ISO 27017, ISO 27018, PCI DSS Level 1 และ SOC 1, 2 และ 3 มาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยทั้งทางเทคนิคและในระดับองค์กรเหล่านี้ได้รับการตรวจสอบโดยผู้ประเมินอิสระภายนอก และออกแบบมาเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการเปิดเผยข้อมูลของลูกค้า

ตัวอย่างเช่น ISO 27018 เป็นหลักปฏิบัติสากลที่มุ่งเน้นการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลบนระบบคลาวด์ ซึ่งมีรากฐานมาจากมาตรฐานด้านความปลอดภัยของข้อมูล ISO 27002 และให้ข้อมูลแนะนำด้านการนำไปใช้เกี่ยวกับมาตรฐานการควบคุม ISO 27002 ซึ่งใช้กับข้อมูลที่ระบุตัวบุคคลได้ (PII) ที่ประมวลผลโดยผู้ให้บริการระบบคลาวด์สาธารณะ สิ่งนี้แสดงให้ลูกค้าเห็นได้ว่า AWS นั้นมีระบบการกำกับดูแลเฉพาะสำหรับปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้า

มาตรการทั้งทางเทคนิคและในระดับองค์กรของ AWS ที่ครอบคลุมเหล่านี้สอดคล้องกับเป้าหมายของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของฟิลิปปินส์เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ลูกค้าที่ใช้บริการของ AWS จะสามารถควบคุมข้อมูลของตนและต้องรับผิดชอบต่อการรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมตามความต้องการเฉพาะของตน ซึ่งประกอบไปด้วย การจัดหมวดหมู่ข้อมูล การเข้ารหัส การจัดการการเข้าถึง และการยืนยันเพื่อรักษาความปลอดภัย

เนื่องจาก AWS ไม่สามารถมองเห็นหรือรับทราบเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกค้าอัปโหลดไปยังเครือข่ายของเราได้ รวมทั้งไม่สามารถทราบได้ว่าข้อมูลดังกล่าวถือว่าอยู่ภายใต้กฎหมายว่าด้วยความเป็นส่วนตัวหรือไม่ ลูกค้าจึงต้องรับผิดชอบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยความเป็นส่วนตัวและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเอง เนื้อหาในหน้านี้เป็นส่วนเสริมของแหล่งข้อมูลด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่มีอยู่แล้วเพื่อช่วยให้ข้อกำหนดของคุณสอดคล้องกับโมเดลความรับผิดชอบร่วมกันของ AWS เมื่อคุณจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนตัวโดยใช้บริการของ AWS

  • ภายใต้ โมเดลความรับผิดชอบร่วมกันของ AWS ลูกค้ายังคงมีความสามารถในการควบคุมความปลอดภัยที่ตนเลือกเพื่อนำไปใช้ปกป้องข้อมูล แพลตฟอร์ม แอปพลิเคชัน ระบบ และเครือข่ายของตนได้ เช่นเดียวกับที่ลูกค้าทำในแอปพลิเคชันในศูนย์ข้อมูลบนเว็บไซต์ ลูกค้าสามารถพัฒนาจากมาตรการและการควบคุมทางเทคนิคและความปลอดภัยขององค์กรที่ AWS มอบให้ได้เพื่อบริหารจัดการข้อกำหนดในการปฏิบัติตามกฎระเบียบของตน ลูกค้าสามารถใช้มาตรการที่ตนคุ้นเคยในการปกป้องข้อมูลของตนได้ เช่น การเข้ารหัสและการยืนยันตัวตนหลายปัจจัยนอกเหนือจากคุณสมบัติด้านความปลอดภัยของ AWS อย่าง AWS Identity and Access Management

    เมื่อทำการประเมินความปลอดภัยของโซลูชันระบบคลาวด์ ลูกค้าจำเป็นต้องเข้าใจและแยกความแตกต่างระหว่าง:

    • มาตรการด้านความปลอดภัยที่ AWS นำไปใช้และดำเนินการ ซึ่งได้แก่ “ความปลอดภัยของระบบคลาวด์” และ
    • มาตรการด้านความปลอดภัยที่ลูกค้านำไปใช้และดำเนินการเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและแอปพลิเคชันของลูกค้าที่ใช้ประโยชน์จากบริการของ AWS ซึ่งได้แก่ “ความปลอดภัยในระบบคลาวด์”
  • ลูกค้าจะคงสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของและการควบคุมเนื้อหาลูกค้าของตน และสามารถเลือกได้ว่าบริการของ AWS บริการใดจะทำหน้าที่ประมวลผล จัดเก็บ และเป็นโฮสต์ให้กับเนื้อหาลูกค้าของตน AWS ไม่มีความสามารถในการมองเห็นเนื้อหาของลูกค้า และจะไม่เข้าถึงหรือใช้งานเนื้อหาของลูกค้า เว้นแต่เพื่อการให้บริการของ AWS ที่ลูกค้าเลือก หรือเมื่อจำเป็นต่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งทางกฎหมายที่ผูกมัด

    ลูกค้าที่ใช้บริการของ AWS จะยังคงมีความสามารถในการควบคุมเนื้อหาของตนภายในสภาพแวดล้อมของ AWS ได้ พวกเขาสามารถ:

    • กำหนดได้ว่าจะเก็บเนื้อหาไว้ที่ใด ตัวอย่างเช่นประเภทของพื้นที่จัดเก็บและตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่จัดเก็บ
    • ควบคุมรูปแบบของเนื้อหานั้น ตัวอย่างเช่น ข้อความธรรมดา แบบสวมข้อมูล ไม่ระบุชื่อ หรือใส่รหัส โดยใช้ได้ทั้ง AWS ในการเข้ารหัสข้อมูลหรือใช้กลไกการเข้ารหัสของบริษัทอื่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเลือกของลูกค้า
    • จัดการการควบคุมการเข้าถึงอื่นๆ เช่นการจัดการการเข้าถึงข้อมูลประจำตัวและข้อมูลรับรองความปลอดภัย
    • ควบคุมว่าจะใช้ SSL, Virtual Private Cloud และมาตรการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายอื่นๆ เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่

    สิ่งนี้ช่วยให้ลูกค้าของ AWS สามารถควบคุมวงจรการใช้งานเนื้อหาของตนบน AWS ได้ทั้งหมด และสามารถจัดการเนื้อหาได้ตามความต้องการ ซึ่งรวมถึงการจัดหมวดหมู่ข้อมูล การควบคุมการเข้าถึง การเก็บรักษา และการลบเนื้อหา

  • ศูนย์ข้อมูล AWS ได้รับการสร้างให้อยู่ในรูปแบบคลัสเตอร์ในหลายตำแหน่งทั่วโลก เราเรียกคลัสเตอร์ศูนย์ข้อมูลในตำแหน่งที่ตั้งต่างๆ ว่า “ภูมิภาค”

    ลูกค้า AWS เป็นผู้เลือกภูมิภาค AWS ที่จะจัดเก็บเนื้อหาของตน ซึ่งช่วยให้ลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะทางภูมิศาสตร์สามารถเลือกสภาพแวดล้อมในสถานที่ตั้งตามต้องการได้

    ลูกค้าสามารถทำสำเนาและสำรองเนื้อหาได้มากกว่าหนึ่งภูมิภาค แต่ AWS จะไม่ย้ายหรือทำสำเนาเนื้อหาของลูกค้านอกภูมิภาคที่ลูกค้าเลือก เว้นแต่จะเป็นการให้บริการตามคำขอของลูกค้าหรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้

  • กลยุทธ์ด้านความปลอดภัยของศูนย์ข้อมูลของ AWS นั้นประกอบไปด้วยมาตรการควบคุมด้านความปลอดภัยหลายระดับและการป้องกันหลายชั้นที่ช่วยในการปกป้องข้อมูลของคุณ ตัวอย่างเช่น AWS จะบริหารจัดการกับความเสี่ยงของอุทกภัยและเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างระมัดระวัง เรามีกำแพงป้องกันทางกายภาพ พนักงานรักษาความปลอดภัย เทคโนโลยีตรวจจับภัยคุกคาม และกระบวนการคัดกรองเชิงลึกเพื่อจำกัดการเข้าถึงศูนย์ข้อมูล เราทำการสำรองระบบ ทดสอบอุปกรณ์และกระบวนการของเราเป็นประจำ อีกทั้งยังฝึกอบรมพนักงานของ AWS อย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

    ในการตรวจสอบความปลอดภัยของศูนย์ข้อมูลของเรา ผู้ตรวจสอบภายนอกได้ดำเนินการทดสอบกับมาตรฐานและข้อกำหนดมากกว่า 2,600 รายการตลอดทั้งปี การตรวจสอบอิสระเช่นนี้ช่วยให้แน่ใจว่ามาตรฐานด้านความปลอดภัยเราของนั้นเป็นไปตามหรือสูงกว่าที่กำหนด ด้วยเหตุนี้ องค์กรที่มีการควบคุมที่เข้มงวดที่สุดในโลกจึงไว้ใจให้ AWS ปกป้องข้อมูลของตน

    เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีในการรักษาความปลอดภัยของศูนย์ข้อมูลของ AWS ตามการออกแบบโดยการเข้าร่วมทัวร์เสมือนจริง »

  • ลูกค้าจะเลือกใช้แค่หนึ่งเขต ทุกเขต หรือเลือกชุดเขตที่ต้องการใช้ก็ได้ ไปที่หน้าโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกของ AWS เพื่อดูรายการเขต AWS ทั้งหมด

  • โครงสร้างพื้นฐาน AWS Cloud ได้รับการออกแบบมาให้เป็นหนึ่งในสภาพแวดล้อมการประมวลผลบนระบบคลาวด์ที่ยืดหยุ่นและปลอดภัยที่สุดที่มีอยู่ในขณะนี้ คุณภาพระดับ Amazon เอื้อเป็นอย่างมากให้ลงทุนกับนโยบายความปลอดภัยและมาตรการรับมือได้มากกว่าที่บริษัทขนาดใหญ่อื่นๆ แทบทุกบริษัทจะสามารถทำได้เอง โครงสร้างพื้นฐานนี้ประกอบไปด้วยฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เครือข่าย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใช้บริการต่างๆ ของ AWS ที่ให้ลูกค้าและคู่ค้า APN มีอำนาจควบคุมหลากหลายอย่าง รวมถึงการควบคุมการกำหนดค่าความปลอดภัย สำหรับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการที่ AWS มีอยู่ในตัวเพื่อรักษาความปลอดภัยให้อยู่ในระดับสูงอยู่เสมอนั้นสามารถดูได้ในเอกสารรายงานภาพรวมเกี่ยวกับกระบวนการรักษาความปลอดภัยของ AWS

    AWS ยังจะให้รายงานการปฏิบัติตามข้อกำหนดหลายฉบับจากผู้ตรวจสอบภายนอกซึ่งได้ตรวจสอบและยืนยันการปฏิบัติตามข้อกำหนดมาตรฐานและข้อบังคับด้านความปลอดภัยของเรา ซึ่งประกอบด้วย ISO 27001, ISO 27017 และ ISO 27018 เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสในประสิทธิภาพของมาตรการเหล่านี้ คุณจะเข้าถึงรายงานการตรวจสอบบุคคลภายนอกได้ใน AWS Artifact สำหรับลูกค้าและคู่ค้า APN ของเราซึ่งอาจทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ควบคุมข้อมูลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลแล้ว รายงานเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นว่าเรากำลังปกป้องโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอันเป็นที่ซึ่งลูกค้าได้ใช้จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ไปที่ แหล่งข้อมูลสำหรับการปฏิบัติตามข้อกำหนดของเรา

มีคำถามหรือไม่ เชื่อมต่อกับตัวแทนธุรกิจของ AWS
ต้องการสำรวจบทบาทด้านการปฏิบัติตามข้อกำหนดใช่ไหม
สมัครวันนี้ »
ต้องการข่าวสารการอัปเดตเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ AWS ใช่ไหม
ติดตามเราบน Twitter »